“นักรบ แฟร์เท็กซ์” จอมบู๊เลือดเดือด วัย 26 ปี จากสุรินทร์ ประกาศความพร้อมเต็มร้อย มุ่งมั่นเกาะเก้าอี้ผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของ แรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ไว้ให้แน่น โดยจะต้องพิสูจน์ฝีมือกับ “ก้องธรณี ส.สมหมาย” มวยซ้ายเฉียบคม วัย 28 ปี จากเพชรบูรณ์ ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต ในศึก ONE Fight Night 26: คริสเตียน vs อาลิเบก ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08.00 น.
ผลงาน 5 ไฟต์หลังสุดของ “นักรบ”
สำหรับ “นักรบ” ถือเป็นอีกหนึ่งนักสู้ที่ทำผลงานได้ติดตาตรึงใจแฟนมวยเป็นอย่างมาก หลังจากเข้ามาโลดแล่นใน ONE มาตั้งแต่เดือน ม.ค.66 และกวาดชัยชนะมาแล้ว 9 ครั้ง จาก 10 ไฟต์ที่ลงแข่งขัน และสามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา
หลังจากนั้น “นักรบ” ในฐานะนักกีฬา ONE ก็ได้โอกาสเปิดตัวในบนเวทีใหญ่ระดับโลกเป็นครั้งแรกในศึก ONE Fight Night 24 เมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนั้นเจ้าตัวโชว์ฟอร์มเดือดเอาชนะคะแนนแบบเอกฉันท์คู่ปรับเก่า “เด็ดดวงเล็ก วันของโอม MBK” ที่มีชื่อเป็นหนึ่งในตัวท็อปของแรงกิงในขณะนั้น ส่งให้เขาได้สิทธิ์ขึ้นไปนั่งในตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ทันที
ดูโพสต์นี้บน Instagram
“ผมดีใจมากที่มีชื่อติดอยู่ในแรงกิงอันดับ 4 ของกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต เพราะสำหรับผม มันยากมากกว่าจะได้มาชกในรายการของ ONE กว่าจะชนะแต่ละไฟต์และกว่าจะได้เซ็นสัญญา ผมต้องชกถึง 9 ไฟต์ ผมต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย ผมถึงรู้สึกภูมิใจกับตัวเองที่มาถึงจุดนี้ได้ แต่แรงกิงอันดับ 4 ไม่ใช่จุดหมายสุดท้ายของผมอย่างแน่นอน”
“ที่ผ่านมา ผมคิดเสมอว่าผมไม่ใช่มวยที่มีพรสรรค์ ส่วนใหญ่ผมจะตั้งใจซ้อมอย่างหนักมากกว่า และผมพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นทุกไฟต์ครับ”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
“เป้าหมายของนักมวยทุกคนคือการขึ้นให้ถึงจุดสูงสุดคือการเป็นแชมป์โลก แน่นอนว่าใคร ๆ ก็หวังไว้แบบนั้น และตอนนี้ผมก็อยู่ในแรงกิงอันดับ 4 แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่อยากคาดหวังมากเกินไปผมตั้งใจจะโฟกัสไฟต์ต่อไฟต์ ผมคิดแค่ว่าอยากจะโชว์ผลงานให้ดีในทุกไฟต์เพื่อผลักดันตัวเองขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุดให้ได้ ส่วนจะต้องเจอกับใครผมไม่เคยเกี่ยงเรื่องคู่ชกเลยครับ”
ก้องธรณี ส.สมหหมาย
ในไฟต์นี้เดิมที “นักรบ” ถูกประกบให้เจอกับ “ดิเอโก ปาเอซ” นักชกจากสหรัฐอเมริกา/โคลอมเบีย แต่เนื่องจากฝ่ายหลังมีอาการบาดเจ็บจึงถอนตัวไปและเป็น “ก้องธรณี” ที่ส้มหล่นใส่ได้เข้าเวรแทนในครั้งนี้
สำหรับ “ก้องธรณี” โลดแล่นใน ONE ลุมพินี มานานตั้งแต่เดือน ก.พ.66 มีผลงานหรูเก็บชัยชนะ 8 จาก 9 ไฟต์ ก่อนจะคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเคยได้โอกาสปะทะฝีมือกับ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (ในขณะนั้น) มาแล้ว แต่ก็แพ้ไปแบบเอกฉันท์ ในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ดูโพสต์นี้บน Instagram
ผลงานล่าสุดของ “ก้องธรณี” เพิ่งขึ้นชกประเดิมเวทีใหญ่ระดับโลกเป็นครั้งแรก ในศึก ONE 169 เมื่อ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา และสามารถโชว์ผลงานยอดเยี่ยมจากการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ทาเกียร์ คาลิลอฟ” มวยความเร็วสูงจากรัสเซียไปได้ และเพิ่มสถิติให้ตัวเองเป็นชนะ 9 ไฟต์ จาก 12 ไฟต์ที่ลงแข่งขันในรายการของ ONE ซึ่งทาง “นักรบ” รู้ดีว่าคู่ชกรายนี้ไม่ธรรมดา แต่ขอสู้สุดใจเพื่อรักษาสถานะตัวท็อปของแรงกิงรุ่นนี้ต่อไป
“ตอนแรก ไฟต์นี้ผมต้องเจอกับ ดิเอโก พอรู้ว่าต้องเปลี่ยนคู่ชกเป็น ก้องธรณี ผมก็เปลี่ยนสไตล์การซ้อมเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมคิดมาตลอดว่าสักวันหนึ่งคงได้เจอกัน เพราะเราอยู่ในเวตเดียวกัน หนีกันไม่ได้อยู่แล้ว และเมื่อเขาประกบคู่ให้ ผมก็พร้อมตอบรับครับ”
“ก้องธรณี เป็นมวยฝีมือ อาวุธจุกจิก ชกด้วยยาก ผมเห็นแต่จุดแข็ง เขาถือเป็นนักชกอันตราย ไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่นในรุ่นนี้เลย โดยเฉพาะในไฟต์ล่าสุดที่ชกกับ ทาเกียร์ ผมมองว่าเขาเก่งมากจริง ๆ และน่าจะเป็นงานยากของผมเลยก็ว่าได้”
“ครั้งนี้เป็นไฟต์ที่สองของผมใน ONE (ใหญ่) ซึ่งสำคัญกับผมมาก ถ้าชนะ ผมอาจจะได้อยู่ในแรงกิงต่อไป ถ้าแพ้ ก็อาจจะหลุดจากแรงกิงเลยก็ได้ แต่ไม่ว่าผลจะออกเป็นยังไง ผมจะสู้เต็มที่ จะไม่ยอมให้ใครมาพรากแรงกิงของผมไปแน่นอนครับ”