“ผึ้งหลวง” ได้ความพ่ายแพ้สอนใจ ตั้งเป้าเอาชัย “ป้อมเพชร” สถานเดียว

ผึ้งหลวง บ้านแรมบ้า” นักสู้ใจเด็ด วัย 25 ปี จากอุบลราชธานี ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝาจากความพ่ายแพ้ 3 ไฟต์ติด พร้อมทุ่มหมดหน้าตักแบบไม่มีอะไรจะเสีย เพื่อปราบ “ป้อมเพชร พานทองยิม” คู่ชกขาลุย วัย 26 ปี จากบุรีรัมย์ ให้ได้เท่านั้น โดยทั้งคู่จะสู้กันในฐานะคู่รองของศึก ONE ลุมพินี 111 ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 6 มิ.ย.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในระยะหลังมานี้ “ผึ้งหลวง บ้านแรมบ้า” ทำฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย จากที่เคยถือครองสถิติไร้พ่าย 6 ไฟต์ สู่ปัจจุบันที่พุ่งชนความพ่ายแพ้แบบไม่ครบยกมาแล้วถึง 3 ไฟต์ติดต่อกัน โดยผลงานล่าสุด คือการถูก “นักรบ แฟร์เท็กซ์” พลิกนรกจากการถูกเตะปลายคางเสียนับในยกแรก กลับมาเป็นฝ่ายไล่ถล่มหมัดส่ง “ผึ้งหลวง” พ่ายน็อกไปแบบช็อกแฟนมวยทั่วประเทศในยกที่ 2 ในคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 101 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

หากย้อนดูความพ่ายแพ้ 3 ไฟต์หลังสุดของ “ผึ้งหลวง” หนึ่งในจุดบกพร่องที่เห็นได้ชัดคือการที่เขาไม่สามารถรักษาโมเมนตัมความได้เปรียบได้ตลอดรอดฝั่ง แม้จะเป็นฝ่ายครองเกมได้ก่อนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความใจร้อนเร่งเข้าไปปิดเกมจนขาดความรัดกุมที่เปิดช่องให้คู่ชกสวนกลับมาทุกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า นี่คือจุดบกพร่องที่ตนรู้อยู่แก่ใจ แต่เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกเมื่อก้าวเท้าขึ้นสังเวียน

“ผมเคยให้สัมภาษณ์ทุกครั้งว่าจุดบกพร่องของผมคือความใจร้อน และขาดการป้องกันตัวที่ดี ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าควรจะต้องชกรัดกุมและมีสติให้มากกว่านี้ แต่ด้วยสัญชาตญาณมวยบู๊อย่างผม เวลาคู่ชกมีอาการ ก็อดไม่ได้ที่จะรีบเข้าไปปิดเกม สุดท้าย เป็นผมที่พลาดโดนสวนกลับทุกที”

“สำหรับไฟต์นี้ ผมได้รับการกำชับมาเหมือนเดิมว่าให้มีสติ และต้องใจเย็นขึ้น ซึ่งผมสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามชกให้รัดกุมกว่าเดิม ต่อให้ได้เปรียบ ผมจะไม่เร่ง และคิดถึงผลชนะเอาไว้ก่อน เพราะผมได้บทเรียนมาพอแล้ว ไม่อยากแพ้เป็นไฟต์ที่ 4 ติดต่อกันครับ”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพ้น็อก 3 ไฟต์ติดกันย่อมส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสภาพจิตใจ แต่ “ผึ้งหลวง” สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นมาได้ ด้วยกำลังใจจากครอบครัว รวมไปถึงภรรยาสุดที่รัก และ “น้องราชา” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน วัย 1 ขวบ 10 เดือน ที่ทำให้เขามีแรงฮึดที่จะกลับมาสู้ต่ออีกครั้ง

“การแพ้น็อกติดต่อกัน 3 ไฟต์ บอกตรง ๆ ว่าในช่วงแรกผมรู้สึกท้อมากครับ แต่ตอนนี้ไม่ท้อแล้ว เพราะที่ผ่านมาภรรยาจะคอยพูดปลอบใจตลอด บอกว่าผมทำได้ดีแล้ว ให้ตั้งใจทำหน้าที่ต่อไป เขาพร้อมเป็นกำลังใจให้ผมเสมอ คุณพ่อคุณแม่ก็ให้กำลังใจเหมือนกัน ท่านบอกว่าอย่าท้อ สักวันต้องเป็นวันของเรา”

“โดยเฉพาะตอนที่ผมเห็นหน้าลูกชาย ก็คิดได้ทันทีว่า ผมจะท้อไม่ได้ ผมต้องสู้เพื่อครอบครัวและทำให้ลูกชายของผมภูมิใจ ซึ่งตอนนี้ผมมีกำลังใจเต็มที่ พร้อมจะกลับมาสู้ต่อแล้วครับ”

การกลับมาขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 12 ของ “ผึ้งหลวง” จะต้องเผชิญหน้ากับ “ป้อมเพชร” ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์กดดันไม่แพ้กัน หลังสะดุดแพ้มา 2 ไฟต์ติด เขาจึงตัดสินใจขยับขึ้นมาชกในรุ่นฟลายเวตเป็นครั้งแรก เพื่อหวังใช้เป็นจุดเปลี่ยนในการกลับมาเก็บชัยชนะอีกครั้ง

ส่วน “ผึ้งหลวง” รู้ดีว่าไฟต์นี้จะแพ้ไม่ได้อีกเป็นอันขาด จึงพร้อมทุ่มทุกอย่างที่มีบนสังเวียน ขอเก็บชัยชนะมาครองให้ได้สถานเดียว เพื่อรักษาโอกาสได้ไปต่อบนเวทีแห่งนี้

“ป้อมเพชร เป็นมวยฝีมือจังหวะดี จุดแข็งของเขาคืออาวุธที่หลากหลาย ส่วนจุดอ่อนผมคิดว่าเขาโดนหนักไม่ได้ มีหล่นให้เห็นตลอด และที่ผ่านมา เขาเจอแต่คู่ชกหนัก ๆ ทั้งนั้น ต้องไปรอดูบนเวทีว่าเขาจะทนอาวุธของผมได้ไหม”

“รูปเกมในไฟต์นี้น่าจะออกมาตึงแน่ ๆ เพราะต่างฝ่ายต่างอยากชนะ ผมมั่นใจว่าถ้าเป็นเรื่องความหนักและความไว ผมไม่แพ้เขาแน่นอน อีกอย่างเขาเพิ่งขยับมาชกรุ่นฟลายเวตครั้งแรก อาจจะทำให้ออกอาวุธและเคลื่อนที่ช้าลงกว่าที่เคย ซึ่งผมเองสู้ในรุ่นนี้มานานกว่า น่าจะได้เปรียบตรงนี้ด้วยครับ”

“ไฟต์นี้สำคัญมากสำหรับผม ผมพร้อมสู้แบบไม่มีอะไรจะเสียเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้เท่านั้น เพราะถ้าแพ้อีก คงต้องรออีกนานกว่าจะได้โอกาสกลับมาพิสูจน์ตัวเองที่นี่อีกครั้ง แต่ผมไม่กดดันตัวเองมากเกินไป เดี๋ยวจะกลายเป็นทำผลงานออกมาได้ไม่ดีครับ”

ติดตาม “ผึ้งหลวง vs ป้อมเพชร” ศึก ONE ลุมพินี 111 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 6 มิ.ย.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.