“ยามีน พีเค.แสนชัย” มวยซ้ายเชิงสวย วัย 28 ปี ล็อกเป้าเก็บแต้มชัยสามไฟต์รวดในการพบกับ “อิบรากิม อับดุลเมชิดอฟ” กำปั้นหน้าใหม่ วัย 29 ปี จากรัสเซีย ที่จะมาเปิดตัวเป็นครั้งแรก โดยทั้งคู่เตรียมแลกอาวุธใส่กันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 137 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 74 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 9 ส.ค.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “ยามีน” ลูกไม้หล่นใต้ต้นของอดีตนักชกชื่อดัง “ปราบศึก ศิษย์สันทัด” อดีตแชมป์เวทีราชดำเนิน กำลังทำผลงานได้โดดเด่นในศึก ONE ลุมพินี หลังเก็บชัยชนะแบบไม่ครบยกได้สองไฟต์รวด ในการพบกับ “จาง จินฮู” จากจีน และ “Pantera” โจอาคิม อูรากี จากฝรั่งเศส-แอลจีเรีย พร้อมรับโบนัสพิเศษกลับบ้านได้ทั้งสองครั้ง รวมเป็นเงิน 700,000 บาท แบบไม่รวมค่าตัว
นับเป็นการเริ่มต้นกลับคืนสู่สังเวียนผืนผ้าใบภาคสองอย่างสวยงาม หลังก่อนหน้านี้ในช่วงโควิดแพร่ระบาด “ยามีน” เคยห่างหายจากวงการกำปั้นไปนานกว่า 4 ปี โดยมีศึก ONE ลุมพินี เป็นทางสว่างที่ทำให้เจ้าตัวมุ่งมั่นหวนแจ้งเกิดในเส้นทางอาชีพนักมวย และฝันไปโชว์ฝีมือใน วัน แชมเปียนชิพ ให้ได้ เพื่อทำให้อนาคตชีวิตของตนเอง รวมถึงครอบครัวที่ตนรักมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ยามีน vs โจอาคิม (19 เม.ย.67)
ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 59 เมื่อ 19 เม.ย.67 “ยามีน” ยอมรับว่าตนยังไม่ได้แสดงฝีมือมากนัก หลังใช้เวลาเพียงแค่ 36 วินาที ของยกแรก เตะใส่มือของ “โจอาคิม” จนเจ็บนิ้วมือหักแข่งขันต่อไม่ไหว เมื่อได้โอกาสกลับมาครั้งที่สาม เจ้าตัวจึงตั้งเป้าอยากโชว์ผลงานให้แฟนมวยได้เห็นกันอย่างเต็มอิ่ม
“ถามว่าผมดีใจไหมที่เอาชนะ โจอาคิม ได้ในวันนั้น มันก็ดีใจอยู่ แต่อยากมีโอกาสยืนชกบนเวทีให้มากกว่านี้ เราจะได้ประเมินผลงานของตัวเองด้วย เพราะไฟต์สองผมยังไม่ได้เห็นอะไรมากในการชก ส่วนที่ผมยังอยากปรับแก้ไขคือเรื่องของการป้องกันตัวและอยากออกอาวุธให้มากกว่านี้ครับ”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
“การเก็บชัยสองไฟต์ติดช่วยให้ผมมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเยอะมาก อยากกลับมาซ้อมให้มากขึ้น แล้วคิดว่าถ้าตัวเองชนะสวย ๆ อีกสักสองไฟต์อาจเข้าใกล้โอกาสคว้าสัญญา ONE ได้ ไฟต์นี้ผมเก็บตัวมานานกว่าสองเดือน ยังต้องซ้อมเสริมทุกอย่างเพิ่มเข้าไปเต็มที่ เพราะเราไม่รู้ว่าคู่ชกจะมาแบบไหนครับ”
กลับมารอบนี้ “ยามีน” ต้องดวลฝีมือกับ “อิบรากิม” จอมหมัดรัสเซีย ที่มีผลงานโดดเด่นในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เคยเป็นแชมป์ในบ้านเกิดแดนหมีขาวมาถึงสามสมัย ทำให้เขาต้องหาศึกษาคู่ชกอย่างละเอียด พร้อมนำประสบการณ์การเจอกับนักชกต่างชาติที่มีมาปรับใช้ให้มากที่สุด
ยามีน vs อิบรากิม
“ข้อมูลของ อิบรากิม ค่อนข้างหาดูยาก แต่ก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง เขาต่อยหมัดแรง ถือว่าไม่ต่างกันมากกับนักมวยรัสเซียที่เห็นมาชกในศึก ONE ลุมพินี ก่อนหน้านี้ ผมอาจได้เปรียบเขาตรงที่มีประสบการณ์การชกมวยไทยมากกว่า อาจมองอ่านเกมเขาออก รู้จังหวะเข้าทำและผ่อนหนักผ่อนเบาได้ดีกว่าครับ”
“ผมต้องออกอาวุธให้รุนแรง เพราะนักชกต่างชาติถ้าโดนแรง ๆ เขาจะมีอาการให้เห็น แต่ถ้าเราออกอาวุธแบบเปาะแปะเขาก็จะยิ่งได้ใจ ไฟต์นี้ผมต้องระวังหมัดของเขาเป็นพิเศษ รวมถึงอาวุธพวกแบ็กคิก ที่อาจโผล่ออกมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ถ้ามีโอกาสผมก็อยากปิดเกมเร็วให้ได้ อยากได้โบนัสเหมือนเดิมครับ”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
ข้อแตกต่างจากสองไฟต์แรกที่เห็นได้ชัดคือ “ยามีน” เริ่มมีความนิ่งและรับแรงกดดันจากรอบข้างได้ดีกว่าเดิม โดยส่วนหนึ่งมาจากผลงานที่เจ้าตัวกำลังทำได้อย่างร้อนแรง จนทำให้กระแสแรงเชียร์จากแฟนมวยพลิกกลับมาเป็นไปในทิศทางบวกเพิ่มมากขึ้น
“ผมอยากขอบคุณแฟนมวยทุกท่าน ไฟต์นี้ดีขึ้นหน่อยตรงที่ไม่โดนโจมตีเยอะเหมือนไฟต์ที่ผ่าน ๆ มาผมยังคงแอบอ่านคอมเมนต์อยู่ตลอด ก็เห็นว่าไฟต์นี้มีแฟนมวยรอเชียร์เยอะ ผมรู้สึกดีใจนะ จากแต่ก่อนตอนมีรายการขึ้นแล้วเห็นคนวิจารณ์ว่า ‘ผมนอนแน่’ แต่เมื่อเก็บชัยชนะไปได้สองไฟต์ เริ่มไม่ค่อยเห็นข้อความเชิงลบแบบนั้นแล้ว ทำให้สภาพจิตใจของเราดีขึ้นด้วยครับ”
