
“สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” นักชกหมัดหนักวัย 28 ปี จากมหาสารคาม เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ที่ผ่านมา เสริมแกร่งทั่วแผ่น พร้อมเปิดศึกภาค 4 กับคู่ปรับเก่าตลอดกาล “แรมบ๊อง ส.เถระพัฒน์” กำปั้นขาลุยวัยเดียวกันจากลำพูน ภายใต้กติกามวยไทย 132 ป. ในฐานะคู่เอกศึก ONE ลุมพินี 115 ที่จะระเบิดความมันขึ้นในวันศุกร์ที่ 4 ก.ค.นี้ จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.

ตลอด 9 ไฟต์ใน ONE ลุมพินี “สุริยันต์เล็ก” โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ กวาดชัยชนะไปถึง 6 ครั้ง จนได้โอกาสพิเศษได้ขึ้นโชว์ฝีมือบนเวทีใหญ่ระดับโลก 2 ไฟต์ติดต่อกัน เริ่มจากการชนะทีเคโอ “ธานท์ ซิน” ในศึก ONE 170 เมื่อเดือน ม.ค.
ส่วนผลงานล่าสุดในศึก ONE 172 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เขาข้ามสายมาลองกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรกใน ONE ซึ่งในวันนั้นเขาต้านทานความว่องไวของ “ริวเซอิ คุมางาอิ” นักสู้เจ้าถิ่น ไม่อยู่ทำให้พ่ายคะแนนเอกฉันท์ไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ช่วยให้เขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
“ผมดีใจครับที่ได้มีชื่อขึ้นชกรายการใหญ่ระดับโลก 2 ครั้งติดต่อกัน ไฟต์แรกที่ อิมแพ็ค อารีนา ตอนต้นปี ผมดีใจมากที่เอาชนะน็อกมาได้ ส่วนไฟต์ที่ญี่ปุ่นผมทำเต็มที่แล้วครับ แต่ตาม ริวเซอิ ไม่ทันจริง ๆ เขาเร็วกว่าเรามาก”
“จาก 2 ไฟต์ที่ผ่านมา ถือเป็นประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ และได้บทเรียนมากมาย ผมจึงนำทุกอย่างที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ในไฟต์นี้ ทั้งเรื่องอาหารการกินและการฝึกซ้อม ทุกอย่างเข้มข้นขึ้นมากครับ”
ภาค 4 ต้องขยี้ให้แตกหัก
ครั้งนี้ “สุริยันต์เล็ก” เตรียมกลับมาขึ้นป้ายคู่เอกนำรายการอีกครั้ง โดยต้องดวลกับ “แรมบ๊อง” คู่ปรับเก่าฟอร์มแรงที่กวาดชัยมาแล้วถึง 8 ไฟต์ในรายการ ONE ลุมพินี โดยทั้งคู่เคยปะทะกันมาแล้ว 3 ครั้งบนเวทีมวยไทย 5 ยก เริ่มจากไฟต์แรกในเดือน ส.ค.63 ซึ่ง “สุริยันต์เล็ก” เป็นฝ่ายพ่ายคะแนน ก่อนจะรีแมตช์ในเดือนถัดมาและได้นับ 8 ในยก 3 ก่อนล้างตาชนะคะแนนไปได้
ส่วนในครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือน มี.ค.64 ซึ่ง “สุริยันต์เล็ก” ออกอาวุธได้ดุเดือดกว่า ไล่หวดน็อก “แรมบ๊อง” ในยก 3 ทำคะแนนนำเป็น 2 ต่อ 1 การกลับมาพบกันอีกครั้งในกติกามวยไทย 3 ยก แม้ฟอร์มช่วงหลังของทั้งสองฝ่ายจะสวนทางกัน แต่ “สุริยันต์เล็ก” ยืนยันว่าเตรียมตัวมาอย่างรัดกุมเพื่อหยุดสถิติชนะรวดของคู่ปรับเก่า และย้ำชัยให้ได้บนเวทีแห่งนี้

“การเจอกับ แรมบ๊อง สนุกทุกครั้งครับ เพราะเราเป็นมวยเปิดเกมเดินเข้าหาเหมือนกัน ที่ผมชนะเขามาได้ 2 ครั้งเพราะเคยได้นับและเคยน็อกเขามาแล้ว จากที่เจอกัน 3 ครั้ง ผมมองว่าอาวุธเขาน่ากลัวทุกลูก คมทั้งหมัดทั้งแข้ง โดยเฉพาะหมัดต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าพลาดอาจหล่นได้เลย”
“นับตั้งแต่เขามาชกในรายการนี้ เขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาเยอะมาก จนกลายเป็นหนึ่งในนักสู้ที่อันตราย ชนะมาแล้ว 7 ไฟต์รวด ส่วนผมยอมรับว่าช่วงหลังผลงานอาจแผ่วลงบ้าง มาเจอกันรอบนี้หลายคนมองว่าผมฟอร์มตก ส่วนเขากำลังสดและอยู่ในช่วงขาขึ้น เขาอาจจะได้เปรียบเรื่องความเร็ว แต่ผมได้เปรียบเรื่องความหนัก และในเมื่อเป็นสไตล์มวยไทยเหมือนกัน ผมมั่นใจว่าตามความเร็วเขาทัน และมีแผนที่จะเอาชนะเขาได้แน่นอน”

ไม่ให้เสียชื่อมือล่าโบนัส
ในฐานะที่ “สุริยันต์เล็ก” ได้ชื่อว่าเป็นนักชกที่คว้าโบนัสบ่อยที่สุดในรายการนี้ถึง 8 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2,800,000 บาท (สองล้านแปดแสนบาท) ยังคงตั้งใจมาล่าโบนัสอีกก้อน แม้จะรู้ดีว่ามาตรฐานของรายการที่ยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ และการคว้าโบนัสไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป แต่เขาถือเป็นแรงกระตุ้นให้ต้องเร่งพัฒนาอาวุธเพื่อเอาชนะใจบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ให้ได้
โดยครั้งนี้ “สุริยันต์เล็ก” ตั้งใจปรับเกมให้เฉียบคมกว่าเดิมและหวังใช้เป็นกุญแจช่วยคว้าโบนัสอีกครั้งในไฟต์นี้ พร้อมตั้งเป้าใหญ่กลับไปโลดแล่นบนเวทีระดับโลกให้ได้อีกครั้งในอนาคตอันใกล้
“ช่วงหลังผมเห็นว่าโอกาสได้โบนัสใน ONE ยากขึ้นครับ แค่น็อกด้วยหมัดไม่ได้แปลว่าจะได้เสมอไปแล้ว ครั้งนี้ผมเลยเตรียมแม่ไม้มวยไทยมามากกว่าเดิม ตั้งใจจะโชว์ให้เห็นว่าอาวุธครบเครื่อง ไม่ได้มีดีแค่หมัดเขวี้ยงควายครับ”
“เป้าหมายของผมคือเก็บชัยชนะครั้งนี้ให้สวย และลุ้นกลับไปชกในรายการใหญ่อีกครั้ง ถ้ามีโอกาส ปลายปีนี้ก็อยากไปชกที่ญี่ปุ่นอีกสักครั้ง ฝากแฟนมวยช่วยเป็นกำลังใจให้ สุริยันต์เล็ก ด้วยนะครับ ผมจะทำให้เต็มที่”
ติดตาม “แรมบ๊อง vs สุริยันต์เล็ก” ศึก ONE ลุมพินี 115 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 4 ก.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.