
“เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” ผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 39 ปี พร้อมเปิดศึกรั้งเก้าอี้แรงกิงจาก “ยูกิ โยซะ” ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่ง วัย 27 ปี จากญี่ปุ่น ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง
รุ่นแบนตัมเวต เพื่อรักษาสิทธิ์ผู้ท้าชิงบัลลังก์ ในศึก ONE ลุมพินี 116 ที่จะถ่ายทอดสดไปสู่ 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 18 ก.ค.นี้

“เพชรทนง” ได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในนักคิกบ็อกซิ่งชั้นนำของไทย โดยเคยก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพด้วยการคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต เมื่อปลายปี 2565 ทว่าในช่วงกลางปีถัดมา เขาถูกปลดจากตำแหน่งแชมป์ และโดนแบน 1 ปี หลังตรวจพบสารต้องห้ามในร่างกาย
หลังพ้นโทษแบน “เพชรทนง” กลับมาโชว์ฟอร์มดุ ด้วยการชนะทีเคโอ “อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อเดือน มิ.ย. 2567
อย่างไรก็ตาม การประกบ 2 ไฟต์หลังสุดเขาพลาดโอกาสขึ้นชกทั้งกับ “นาบิล อานาน” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” เมื่อต้นปี ทำให้การคัมแบ็กครั้งนี้นับเป็นการกลับสู่เวทีอีกครั้งในรอบ 1 ปีเต็ม
“ผมดีใจมากที่ได้กลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้ง จริง ๆ มีรายการให้ชกตลอดทั้งปี แต่ไฟต์กับ นาบิล ผมทำน้ำหนักไม่ผ่าน ส่วนไฟต์กับ อิเลียส เมื่อต้นปี คู่ต่อสู้มีปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้ไม่ได้ชก”
“เท่ากับว่าไฟต์ก่อนหน้านี้กับไฟต์นี้ห่างกันถึง 1 ปี การห่างเวทีนานอาจส่งผลทั้งเรื่องการเคลื่อนไหว ความคุ้นชิน ศักยภาพของร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องกันหมด แต่ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่า การเตรียมพร้อมอย่างสม่ำเสมอและประสบการณ์ที่สั่งสมมา จะช่วยให้ผมรับมือกับสถานการณ์บนเวทีได้ดีและคว้าชัยชนะได้”
เพชรทนง ไม่หวั่นความสด “ยูกิ”
การคัมแบ็กครั้งนี้ “เพชรทนง” ต้องเจอกับบททดสอบสำคัญ เมื่อถูกประกบให้ปะทะกับ “ยูกิ” ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่งระดับแถวหน้าของญี่ปุ่น เจ้าของแชมป์โลก K-1 รุ่นไลต์เวต (62.5 กก.) ที่มาพร้อมสถิติโหด ชนะ 19 จาก 21 ไฟต์ โดยเป็นการน็อกถึง 9 ครั้ง และเพิ่งเซ็นสัญญาเข้าสู่ ONE เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
ก้าวแรกของ “ยูกิ” ในนามนักกีฬา ONE เขาเปิดตัวได้อย่างร้อนแรง ไล่บด “เอลบรุส ออสมานอฟ” นักสู้ไร้พ่ายจากรัสเซีย จนคว้าชัยด้วยคะแนนเอกฉันท์ในศึก ONE ลุมพินี 109 เมื่อเดือน พ.ค. และมุ่งมั่นจะล้ม “เพชรทนง” เพื่อเปิดทางสู่การเป็นผู้ท้าชิงแชมป์คนต่อไป
ด้าน “เพชรทนง” มั่นใจว่ารู้จักฝีมือของ “ยูกิ” เป็นอย่างดีจากการเคยลงนวมด้วยกันเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ค่ายซุปเปอร์บอน เทรนนิงแคมป์ และเชื่อว่าเขามีแผนรับมือพร้อมไว้แล้ว

“ต้องยอมรับว่า ยูกิ เป็นนักกีฬาที่เก่งมาก รวดเร็ว ว่องไว ร่างกายสดกว่า และมีความกระหายชัยชนะสูง จากไฟต์แรกที่เขาชนะ เอลบรุส มาได้ พิสูจน์ให้เห็นถึงความฟิต ความแข็งแกร่ง และความทนทาน ตามสไตล์นักชกที่มีพื้นฐานมาจากคาราเต้”
“แต่ผมวางแผนรับมือไว้แล้ว โดยจะไม่ประมาทในทุกจังหวะ เน้นป้องกันอาวุธให้รัดกุม โดยเฉพาะลูกเตะขาแปลก ๆ ที่เขาใช้และหมัดที่ออกได้เร็ว เพราะตอนซ้อมด้วยกันผมเห็นจุดนี้ชัดเจน ส่วนอาวุธอื่น ๆ ผมเตรียมรับมือไว้ครบ และพร้อมปรับเกมตามสถานการณ์ ”
“ผมมั่นใจในประสบการณ์และความละเอียดในการแก้เกม รวมถึงการป้องกันตัวที่เป็นจุดแข็งของผม เชื่อว่าจะช่วยให้เอาชนะเขาได้แน่นอน ส่วนเรื่องสภาพร่างกายไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะผมซ้อมมาเพื่อชกเต็ม 5 ยก พอแข่งแค่ 3 ยก ถือว่ากำลังเหลือเฟือครับ”

เพชรทนง มองข้ามช็อตถึงชิงบัลลังก์
ปัจจุบัน “เพชรทนง” ในวัย 39 ปี กำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของเส้นทางอาชีพ แต่ยังคงมุ่งมั่นเต็มที่กับเป้าหมายในการทวงบัลลังก์คืนจาก “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลกคนปัจจุบัน และกลับมายืนในฐานะแชมป์โลก ONE ได้อีกครั้ง
“ผมรู้ดีว่าไฟต์นี้มีความหมายมาก ทั้งสำหรับผมและเขา เพราะผู้ชนะอาจมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลกกับ โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี ในไฟต์ต่อไป จริง ๆ ผมมองข้ามช็อตไปแล้ว มั่นใจว่าเสียงเชียร์ในสนามมวยเวทีลุมพินีจะเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยให้ผมคว้าชัย และตีตั๋วกลับไปชิงบัลลังก์ได้อีกครั้ง”
“ผมยังเชื่อมั่นในตัวเองเสมอว่า สักวันจะกลับมาเป็นแชมป์โลก ONE ได้อีกครั้งก่อนเลิกมวย เพราะผมใช้ชีวิตแบบนักกีฬาอาชีพ ดูแลตัวเองอย่างดี และทำทุกอย่างเพื่อวันนั้น ผมจะชนะไฟต์นี้ เพื่อกลับไปยืนในฐานะผู้ท้าชิง และคว้าเข็มขัดกลับมาให้ได้”
ติดตาม “เพชรทนง vs ยูกิ” ศึก ONE ลุมพินี 116 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 18 ก.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.