“เสือแบล็ค” ลบทุกคำสบประมาท มุ่งพัฒนาฝีมือพร้อมลุยต่อไม่เกี่ยงกติกา

เสือแบล็ค ท.พราน49” มวยกะเหรี่ยงใจสู้ วัย 28 ปี จากเพชรบูรณ์ สุดภูมิใจหลังฝ่าฟันมรสุมลูกใหญ่ จนกลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้งด้วยการคว้าชัยชนะเหนือ “แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน” นักสู้ดีกรีแชมป์มวยสากล วัย 21 ปี ในศึกนัดใหญ่ ONE ลุมพินี 114 เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

แสงอาทิตย์ vs เสือแบล็ค (27 มิ.ย.68)

ก่อนหน้านี้ “เสือแบล็ค” พ่ายหมดรูป 3 ไฟต์ติด และเผชิญกระแสโซเชียลโจมตีอย่างหนักตลอดปีที่ผ่านมาถึงขั้นต้องพบนักจิตวิทยาช่วยกู้สภาพจิตใจ เรียกได้ว่าการกลับมาครั้งนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องคว้าชัยให้ได้ อีกทั้งยังเป็นการประเดิมกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในรายการ และต้องเจอกับคู่ชกฝีมือจัดจ้านอย่าง “แสงอาทิตย์” นี่จึงนับเป็นไฟต์พิสูจน์ใจของ “เสือแบล็ค” อย่างแท้จริง

เกมการชกเป็นไปอย่างสนุกสูสี ต่างฝ่ายต่างงัดอาวุธออกมาแลกกันตลอด จนกระทั่งยกสุดท้าย “เสือแบล็ค” ปล่อยทีเด็ดลับที่เตรียมมา กระโดดหมุนเตะ ส่ง “แสงอาทิตย์” ลงไปถูกนับถึง 2 ครั้ง ก่อนจะเข้าป้ายคว้าชัยชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ กลับมาแจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม

“ยกแรกผมตั้งใจจะลองดูอาวุธของ แสงอาทิตย์ ก่อน ว่าตัวเองจะรับไหวไหม พอโดนเข้าไปทีแรกเลือดกำเดาไหล แต่ยังรู้สึกว่าทนได้ ก็เลยกล้าออกอาวุธโต้กลับ”

“พอสองยกผ่านไป ผมเริ่มมั่นใจขึ้น แต่ใน ONE ยังไงก็ประมาทไม่ได้ จนกว่าจะครบ 3 ยก เพราะมีโอกาสนับหรือน็อกได้ตลอด ส่วนที่เห็นผมใช้ลูกหมุนเตะ เพราะอยากโชว์อาวุธให้หลากหลาย ซึ่งลูกนี้ ผมซุ่มซ้อมมานานแล้ว แต่ไม่ได้โพสต์ลงโซเชียล เพราะกลัวคู่ชกจะจับทางได้”

“ยกสุดท้ายผมเห็นว่าน้องเขาเริ่มแรงตก จริง ๆ แล้วผมว่าร่างกายเราสองคนใกล้เคียงกัน แต่ผมชนะได้เพราะวางแผนมาดีกว่าเท่านั้นครับ”

เดินหน้าพิสูจน์ตัว

ชัยชนะครั้งนี้นับเป็นการทลายกำแพงแห่งความกดดันและความผิดหวังที่ “เสือแบล็ค” แบกมานานหลายปีลงได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวยอมรับว่ายังมีข้อผิดพลาดให้เห็นไม่น้อยในไฟต์นี้ และตั้งใจจะกลับไปพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

“ก่อนขึ้นชกมีคนแซวว่าให้เตรียมหมอนไปด้วย เพราะผมจะโดนน็อก ตอนนี้รู้สึกโล่งใจมากที่สามารถกลับมาคว้าชัยได้อีกครั้ง ดีใจที่ผลงานออกมาดีกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะชนะได้ แต่ยังมีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องความเร็วที่ยังไม่ดีพอ และอาวุธยังไม่คม ไม่หนักพอ ผมรู้ว่าต้องทำให้ดีกว่านี้ครับ”

โดยจากนี้ “เสือแบล็ค” ที่กู้ความความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง ก็ตั้งเป้าหมายต่อไปทันที โดยพร้อมเปิดรับความท้าทายใหม่แบบไม่เกี่ยงกติกา ซึ่งนอกจากกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่งแล้ว “เสือแบล็ค” ยังพร้อมลองในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ซึ่งเจ้าตัวเคยชิมลางลงแข่งขันมาแล้ว 1 ไฟต์ในอดีต

“ผมรักการต่อสู้ เป็นนักมวยมา 21 ปี ชอบเรียนรู้อยู่เสมอ และพร้อมชกในทุกกติกาที่ ONE ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย , คิกบ็อกซิ่ง และ MMA”

“ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้เสมอ และยังไม่หมดศรัทธาในตัวผม จนกระทั่งกลับมาคว้าชัยได้อีกครั้ง และขอบคุณ บอสชาตรี ที่ให้โอกาสผมมาตลอด ผมอยากโชว์ศักยภาพให้เห็นว่าเขาจะไม่รู้สึกเสียดายที่ให้สัญญากับผมครับ”