‘แบล็คแพนเธอร์’ มวยครบเครื่อง วัย 23 ปีจากสงขลา คว้าโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต เตรียมเปิดตัวบนเวทีระดับโลก ONE ครั้งแรก พบกับ ‘อาลี ซาลโดเอฟ’ จอมบู๊ไร้พ่าย วัย 24 ปี จากรัสเซีย ที่กำลังโหยหาชัยชนะไฟต์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะปะทะกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในศึก ONE Fight Night 23 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันเสาร์ที่ 6 ก.ค.67
ครั้งสุดท้ายที่แฟน ๆ เห็นลีลาการบู๊ของ ‘แบล็คแพนเธอร์’ บนสังเวียน ต้องย้อนกลับไปถึงในศึก ONE ลุมพินี 35 เมื่อเดือน ก.ย.66 ที่เขาสามารถเอาชนะ ‘สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง’ ไปได้อย่างดุเดือด พร้อมรับโบนัส 3.5 แสนบาท ก่อนจะต้องหยุดพักนานหลายเดือน เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณข้อมือขวา
ตอนนี้ ‘แบล็คแพนเธอร์’ กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และพร้อมกลับมาโชว์ฝีมือในรอบกว่า 9 เดือน ด้วยการเปิดตัวบนเวทีระดับโลก ONE ครั้งแรกพบกับ ‘อาลี ซาลโดเอฟ’ นักสู้จอมแกร่งจากรัสเซีย ในศึก ONE Fight Night 23 วันเสาร์ที่ 6 ก.ค.นี้
“จริง ๆ ผมมีสัญญา ONE มาตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ แต่ไม่ได้โอกาสมาชกสักที พอคราวนี้ทางรายการเสนอโอกาสมาให้ ผมก็รีบตัดสินใจตอบรับทันที เพราะรอโอกาสที่จะได้ขึ้นชกในเวทีระดับโลกมานานผมรู้สึกตื่นเต้นมากจะได้โชว์ฝีมือใน ONE เป็นครั้งแรก สภาพความพร้อมตอนนี้ก็พร้อมลุยแล้วครับ ผมจะพยายามทำผลงานให้ออกมาดีที่สุดในวันแข่งขันครับ”
“อาลี เป็นมวยหมัดล้วน ๆ เลยครับ ส่วนตัวไม่รู้สึกกังวล หรือตื่นเต้นอะไรกับคู่ชกคนนี้เลยครับ เพราะเขาเพิ่งข้ามสายมาชกมวยไทยมาไม่มากเท่าไหร่ เรื่องกระดูกมวยประสบการณ์ถือว่าน้อยมากครับ นักมวยรัสเซีย ที่ค่ายหลายคนก็รู้จัก อาลี ครับ เขาบอกผมว่าจุดอ่อน อาลี อยู่ที่คาง ผมคิดว่าถ้าผมสามารถโจมตีโดนที่คางเข้าจัง ๆ น่าจะทำให้เขาร่วงได้ ในมุมมองผมนักมวยต่างชาติหลายคน ที่สถิติดูโหด ดูไร้พ่าย เพราะพวกเขายังไม่เคยได้เจอกับนักมวยไทยจริง ๆ ในประเทศไทยครับ”
“ไฟต์นี้ผมคิดว่าผมได้เปรียบ อาลี ในเรื่องของรูปร่างและประสบการณ์มวยไทยที่มากกว่า และอีกอย่างผมซ้อมกับนักมวยรัสเซีย อยู่ตลอดด้วยครับ ทำให้รู้ทางมวยแนวนี้ดี ธรรมชาติของนักมวยรัสเซีย แทบทุกคน จะเป็นมวยเดินครับ ไฟต์นี้ผมจึงเชื่อว่า อาลี น่าจะเดินเข้าหาผม พร้อมกับอาวุธหมัดแน่นอน ซึ่งหากเขาเดินมาหา ผมก็จะต้อนรับเขาด้วยศอก”
นอกจาก ‘แบล็คแพนเธอร์’ แล้ว ยังมีนักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันในรายการนี้อีก 2 ราย ได้แก่ ‘เสมาเพชร’ เปิดศึกทวงชิงตำแหน่งแรงกิงเบอร์ 1 จาก “นิโค คาร์ริลโล” จอมบู๊ชาวสกอตแลนด์ และ “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” กำปั้นลูกครึ่ง ไทย-มาเลเซีย จะดวลฝีมือกับ “เอลลิส บาร์โบซา” นักชกจอมแกร่งจากสหราชอาณาจักร