
“แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน” นักสู้ดีกรีแชมป์มวยสากล วัย 21 ปี เปิดใจถึงข้อผิดพลาดที่ทำให้ตนตกเป็นฝ่ายแพ้คะแนนเอกฉันท์ให้กับ “เสือแบล็ค ท.พราน49” มวยกะเหรี่ยงใจสู้ วัย 28 ปี จากเพชรบูรณ์ แบบน่าปวดใจ ในศึกนัดใหญ่ ONE ลุมพินี 114 เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

“แสงอาทิตย์” เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อเดือนมี.ค.68 ด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ซูปาร์ เย จัน” จากเมียนมา กลับมารอบนี้เจ้าตัวจึงมีความมั่นใจเกินร้อยพร้อมบู๊ในกติกาคิกบ็อกซิ่งต่อเนื่อง โดยพบกับนักชกเจนเวที ONE อย่าง “เสือแบล็ค” ที่ช่วงหลังฟอร์มตกหล่นพ่ายมา 3 ไฟต์ติด และหวังกู้ศรัทธากลับมาให้ได้ในไฟต์นี้
ก่อนชกไฟต์นี้ “แสงอาทิตย์” ย้ำว่าตนได้เตรียมสภาพความพร้อมมาดีมาก โดยผ่านการฝึกซ้อมเข้มมามากกว่า 3 เดือน พร้อมทั้งศึกษาคู่ชกอย่าง “เสือแบล็ค” มาดีทุกแง่มุม โดยหวังปิดเกมสวยเก็บชัยต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 2 ให้ได้ อย่างไรก็ตามผลงานที่ออกมากลับไม่เหมือนที่คิด เมื่อ “แสงอาทิตย์” ต้องพบกับข้อผิดพลาดหลายจุด รวมถึงโดนท่ากระโดดฟาดแข้งกลับหลังของคู่ชกรุ่นพี่ทำเซอร์ไพรส์เข้าอย่างจัง

“ภาพรวมผลงานยกแรกยังน่าพอใจอยู่ แต่ยกสองผมกลับคิดเยอะไปเอง เพราะกลัวว่าอาวุธที่ออกไปจะพลาด สุดท้ายกลายเป็นกับดักที่ทำให้ผมไม่กล้าออกอาวุธเลย ผมรู้สึกว่าตัวเองออกหมัดได้น้อยมาก จึงได้บทเรียนสำคัญว่าไม่ควรที่จะคิดเยอะเกินไประหว่างชกครับ”
“ผมศึกษาดูเทปข้อมูลการชกของ พี่เสือแบล็ค มาก่อนแล้ว แต่แทบไม่เคยเห็นเขาใช้ลูกฟาดแข้งกลับหลังมาก่อนเลย ผมจึงรู้สึกตกใจที่เห็นเขาใช้บนเวที และยิ่งทำให้ผมคิดเยอะมากกว่าเดิม จากที่ต้องเดินบุกมากขึ้น กลายเป็นลังเลทั้งในจังหวะบุกและตั้งรับ ทำให้เกมไม่ต่อเนื่อง ผิดแผนจากที่วางเอาไว้ไปหมดเลยครับ”

“ข้อผิดพลาดของผมที่เห็นได้ชัดจากไฟต์นี้คือคิดเยอะเกินไป ผมควรชกตามแผนที่เตรียมมา ไม่ควรชกตามใจของตัวเอง ต้องชกให้สมดุลกว่านี้”
“ผมประมาทไปเองด้วยตรงที่มั่นใจมากเกินไป เพราะรู้สึกว่าสภาพร่างกายดีขึ้นกว่าไฟต์ที่แล้ว คิดว่าตัวเองน่าจะสดกว่า ขณะที่ พี่เสือแบล็ค ฟอร์มช่วงหลังก็ไม่ค่อยดีด้วย”
“ผมยอมรับความพ่ายแพ้ครับ และต้องเรียนรู้เพื่อเป็นนักมวยที่เก่งขึ้น ถ้าผมไม่แพ้ให้กับ พี่เสือแบล็ค ผมคงไม่ได้เรียนรู้อะไรและคงไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้ดีกว่านี้ได้”
น้อมรับกำลังใจและคำติชม
แม้จะผิดหวัง “แสงอาทิตย์” ยังมีแรงสนับสนุนชั้นยอดจากทั้งทางแฟนคลับและครอบครัว ทำให้เขาไม่เคยคิดย่อท้อต่อเส้นทางอาชีพนักมวยง่าย ๆ พร้อมใช้กำลังใจจากทุกคนเป็นแรงผลักดันส่งให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น และกลับมาเป็นคนที่ดีกว่าเดิมในไฟต์ต่อไป
“ผมอยากขอบคุณทุกคนมาก ผมกล้าพูดเลยว่ามาถึงจุดนี้ได้เพราะแรงผลักดันของทุกคน พ่อแม่ ภรรยา ครอบครัว รวมถึงแฟนคลับที่ให้กำลังใจ ถ้าไม่มีพวกเขาผมคงคิดมากและอาจดิ่งไปกว่านี้ ถ้าไม่มีทุกคนคงไม่มี แสงอาทิตย์ ในทุกวันนี้”
“ถึงเราจะเป็นนักมวยที่มีร่างกายแข็งแรงก็จริง แต่บางครั้งจิตใจบอบบางเหมือนกัน แต่ผมพยายามไม่คิดในแง่ลบ บางครั้งคนที่ด่าเราอาจเชียร์เราก็ได้ การได้รับคำติชิมจากมุมมองที่หลากหลายถือเป็นเรื่องดี ผมพร้อมปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อให้แฟนมวยคนไทยภูมิใจในตัวผมครับ”

ถ้ามีโอกาสอยากรีแมตช์ เสือแบล็ค
สุดท้าย “แสงอาทิตย์” ยืนยันว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยตนยังพร้อมพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อพุ่งชนกับทุกอุปสรรคที่ต้องเจอ และถ้ามีโอกาสก็พร้อมที่จะรีแมตช์กับ “เสือแบล็ค” เพื่อแก้มือ
“ความพ่ายแพ้จะทำให้ผมเก่งขึ้น ทุกครั้งที่แพ้ผมจะเรียนรู้ให้มากที่สุด ผมคิดว่าตัวเองต้องกลับมาดีกว่าเดิมแน่นอน เพราะผมมักจะทำได้ดีในครั้งถัดไป ขอแค่ต้องฝึกฝนจนชำนาญมากขึ้น ถ้าทำบ่อย ๆ จะเกิดความคุ้นชินและแก้ไขทุกอย่างได้ดีขึ้น”
“ผมอยากแก้มือกับ พี่เสือแบล็ค มาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองชกผิดแผนไปหมด และน่าจะทำผลงานออกมาได้ดีกว่านี้ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเกิดขึ้นจริง แต่ถ้าในใจลึก ๆ ผมอยากรีแมตช์ครับ”