
“โยฮันนา แพร์ชอน” นักสู้สาวดีกรีแชมป์โลก WBC มวยไทย วัย 30 ปี จากสวีเดน ประกาศความมั่นใจลับศอกมาจากบ้าน หวังปิดเกม “อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส” ราชินีหญิงแกร่ง วัย 27 ปี จากบราซิล เพื่อกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) มาครองในการเปิดตัวครั้งแรกบนเวทีระดับโลก โดยจะขึ้นป้ายคู่เอกของศึก ONE Fight Night 33: อัลลิเซีย vs โยฮันนา ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08:00 น. ในวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.นี้
จากนักฟุตบอลสู่นักมวย
“โยฮันนา” เติบโตขึ้นมาในครอบครัวอันอบอุ่นในเมืองเยฟเล ประเทศสวีเดน พร้อมกับพี่ชายอีก 1 คน โดยเธอมีโอกาสเริ่มต้นเล่นฟุตบอลราวอายุ 15-16 ปี ก่อนจะเบนความสนใจมาฝึกมวยไทยเมื่ออายุ 23 ปี หลังจากเห็นเพื่อนซ้อมเตะเป้ากับโค้ชเดวิด เลห์นเบิร์ก (David Lehnberg) ที่ยิมเกฟเฟิล ไฟต์ แคมป์ (Gefle Fight Camp) ซึ่งปัจจุบัน โค้ชเดวิดได้กลายเป็นโค้ชคู่ใจและยิมแห่งนี้ได้กลายมาเป็นสถานที่ฝึกซ้อมหลักของเธอ
ด้วยพื้นฐานการเล่นกีฬามาก่อน ทำให้ “โยฮันนา” สามารถปรับตัวเข้ากับการฝึกมวยไทยได้อย่างน่าทึ่ง จนสามารถสร้างชื่อเสียงได้อย่างรวดเร็วในวงการมวยไทยสมัครเล่นของสวีเดน จากผลงานการปิดเกมน็อกคู่ต่อสู้หลายต่อหลายราย อย่างไรก็ตาม การระบาดของไวรัสโควิด ในช่วงปี 2563-2564 ทำให้การแข่งขันระดับสมัครเล่นต้องหยุดชะงักลง และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อก้าวสู่เส้นทางนักชกอาชีพอย่างเต็มตัว
หลังจากเป็นตัวแทนทีมชาติสวีเดน ลงแข่งขันรายการมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลกที่กรุงเทพฯ ในช่วงเดือน ธ.ค.64 เธอได้ก้าวเข้าสู่โลกของการเป็นนักมวยไทยอาชีพเต็มตัว และประสบความสำเร็จในการคว้าเข็มขัดแชมป์มาครองได้จากหลายองค์กร กระทั่งเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วยุโรป
หนึ่งในชัยชนะสำคัญที่ส่งให้ชื่อของ “โยฮันนา” ดังกระหึ่มไปทั่วโลก เกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเธอบินข้ามประเทศไปปราบ “โรนา วอล์กเกอร์” นักชกชาวสกอตแลนด์ได้ถึงถิ่น พร้อมหอบเข็มขัดแชมป์โลก WBC มวยไทย กลับบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่
ด้วยความสำเร็จอันสวยหรูตลอดเส้นทางอาชีพ และสถิติสุดอันตรายชนะ 13 จากการชกระดับอาชีพทั้งหมด 16 ไฟต์ ทำให้ “โยฮันนา” ได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ให้เข้ามาเปิดตัวบนเวทีระดับโลก ONE ในฐานะผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต รายที่ 4 ของ “อัลลิเซีย” ยอดนักชกคุณแม่ลูกหนึ่งที่ครองตำแหน่งราชินีของรุ่นนี้มานานเกือบ 5 ปี
“โอกาสครั้งนี้คือทุกอย่างสำหรับฉัน เป็นเวลานานกว่า 7 ปี ที่ฉันทุ่มเทอย่างหนักเพื่อมาถึงจุดนี้ และตอนนี้ฉันก็ได้รับโอกาสที่จะทำเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ นั่นคือการชิงเข็มขัด และได้ขึ้นชกบนเวทีระดับโลก ONE นี่เป็นความฝันยิ่งใหญ่จนแทบหาคำมาอธิบายไม่ได้เลย”
“นี่คือข้อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ฉันทำมาตลอดหลายปีไม่สูญเปล่า เป็นก้าวสำคัญหลังจากมุ่งมั่นและทุ่มเทตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา นี่สะท้อนให้เห็นว่าทั้งคนในวงการและแฟน ๆ ต่างเห็นคุณค่าในสิ่งที่ฉันทำ และพร้อมจะร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ไปด้วยกัน”Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
สำหรับ “อัลลิเซีย” ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดนักชกไร้พ่ายแห่งรุ่นอะตอมเวต โดยฝากผลงานล่าสุดเอาไว้ในศึก ONE Fight Night 29 เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการจัดหนักเอาชนะทีเคโอ “มารี แมคมานามอน” ผู้ท้าชิงจากสหราชอาณาจักร/ไอร์แลนด์ ไปได้อย่างเด็ดขาดในยกที่ 4 รักษาเข็มขัดเอาไว้ได้เป็นครั้งที่ 3 พร้อมรับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 1.7 ล้านบาท) ไปครอง
เล็งปิดเกมไวตัวแม่
แม้ “อัลลิเซีย” จะโชว์ฟอร์มดุดัน ไล่ยำผู้ท้าชิง 3 รายที่ผ่านมาแบบยับเยิน แต่ “โยฮันนา” ที่เก็บชัยชนะมาแล้วถึง 7 ไฟต์ติดต่อกันจากทุกรายการ ก็มั่นใจว่าความดุดันและอาวุธทรงพลังของเธอจะสามารถปิดเกม “อัลลิเซีย” ได้ เพื่อก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตในฐานะแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต คนใหม่
“โค้ชอาจบอกว่าฉันเป็นมวยหมัดก็จริง แต่ถ้าต้องเล่นเกมมวยฝีมือ ฉันก็ทำได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ฉันยังชอบที่จะเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกใส่คู่ชกมากกว่า เพราะทำให้ฉันได้เป็นฝ่ายควบคุมเกม”
“ฉันตั้งใจจะเดินหน้าอัด อัลลิเซีย ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นคนกำหนดจังหวะของเกมตั้งแต่ต้นจนจบ และฉันจะคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต มาครอง ด้วยการฟันศอกปิดเกม นั่นคือสิ่งที่ฉันบอกได้ในตอนนี้”
ติดตาม “อัลลิเซีย vs โยฮันนา” ศึก ONE Fight Night 33 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 08.00 น.