“โจนาธาน ดิ เบลลา” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) วัย 28 ปี ตัวแทนอิตาลี/แคนาดา ตั้งเป้าเก็บชัยเหนือ “รุย โบเทลโฮ” จอมบู๊วัย 30 ปี จากโปรตุเกส เป็นบันไดพาตัวเองกลับไปชิงเข็มขัดคืนจากแชมป์โลกคนปัจจุบัน “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” ในศึก ONE Fight Night 26: คริสเตียน vs อาลิเบก ที่จะเปิดฉากขึ้น ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08.00 น. วันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.นี้
ผลงานใน ONE ของ “ดิ เบลลา”
สำหรับ “ดิ เบลลา” เปิดตัวกับ ONE ได้อย่างยอดเยี่ยม ในศึก ONE 162 เมื่อ 21 ต.ค.65 โดยเอาชนะแต้มเอกฉันท์ “จาง เป่ยเหมียน” คู่ชกจากจีน ผงาดเป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ที่ว่างอยู่ในขณะนั้นได้ทันที
ต่อมา “ดิ เบลลา” สามารถรักษาเข็มขัดครั้งแรกได้สำเร็จ หลังเป็นฝ่ายโชว์ฝีมือเหนือชั้นไล่ทุบชนะคะแนนเอกฉันท์ “มินิที” แดเนียล วิลเลียมส์” ผู้ท้าชิงลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย แบบสวยงาม ในศึก ONE Fight Night 15 เมื่อ 7 ต.ค.66
ดูโพสต์นี้บน Instagram
หลังจากนั้นเขาขึ้นป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2 จาก “พระจันทร์ฉาย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ที่ข้ามสายมาเก็บแชมป์เส้นที่ 2 ในศึก ONE ลุมพินี 58 เมื่อ 5 เม.ย.67 แต่ “ดิ เบลลา” ไม่ผ่านเกณฑ์วัดระดับน้ำของ ONE เป็นเหตุให้ถูกริบคืนตำแหน่งตามระเบียบ ทำให้แชมป์โลกรุ่นนี้มีสถานะ “แชมป์ว่าง” ทันที และไฟต์เป็นอันต้องถูกยกเลิกไป
ล่าสุด “ดิ เบลลา” ได้โอกาสวัดฝีมือกับ “พระจันทร์ฉาย” จนได้ ในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีแชมป์โลกที่ว่างอยู่เป็นเดิมพัน ผลปรากฏว่าตลอดทั้ง 5 ยก “ดิ เบลลา” เป็นฝ่ายพ่ายคะแนนเอกฉันท์ ส่งให้กำปั้นคนดังชาวไทย คว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต มาครองเป็นเส้นที่ 2 สมใจ
ดูโพสต์นี้บน Instagram
ผลงานดังกล่าวทำให้ “ดิ เบลลา” ได้รับบทเรียนสำคัญ โดยพร้อมใช้ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นเป็นแรงกระตุ้น ตั้งเป้ากลับไปยืนในจุดสูงสุดให้ได้อีกครั้ง
“ไฟต์ที่เจอ พระจันทร์ฉาย เป็นการชกที่สูสีมาก แต่สุดท้ายผมก็แพ้ไป แน่นอนว่าเป้าหมายของผมคือการเอาเข็มขัดคืนมา และผมมั่นใจว่าจะได้มันคืนมาร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมอยากเป็นแชมป์อีกครั้ง”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
ก่อนที่ “ดิ เบลลา” จะก้าวกลับไปลุ้นท้าชิงบัลลังก์มาครอง เจ้าตัวต้องเอาชนะ “รุย” ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักจากการเก็บชัย 2 มาไฟต์ติดให้ได้เสียก่อน
“ผมเชื่อว่าตัวเองต้องเอาชนะได้ อาจไม่ต้องหวังถึงชนะน็อก แค่ขึ้นเวทีไปแสดงฝีมือและโฟกัสที่ รุย เท่านั้น และถ้าผมต้องเจอ พระจันทร์ฉาย ในไฟต์ต่อไป ผมต้องมุ่งเป้าไปที่เขาแน่นอน แต่ตอนนี้ผมต้องเน้นไปยังคู่ชกที่อยู่ตรงหน้าก่อน”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
“รุย เป็นนักชกไร้ตำรา เขามีพละกำลังมาก เร็วมาก กะจังหวะได้เก่ง แถมฉลาดเป็นกรด ส่วนจุดอ่อนของเขาผมยังมองไม่ค่อยออก แต่ผมเห็นว่าเขาชอบเดินบุกยิ่งกว่าอะไร เขามาเพื่อสู้ ซึ่งเป็นเรื่องดี”
“ผมน่าจะเห็นสไตล์ของเขาได้ชัดกว่านี้ตอนที่ชกกันจริง หลังจากนั้น อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ผมอาจชนะคะแนนก็ได้ ผมไม่ได้หวังว่าจะชนะน็อกหรอก แต่สุดท้าย อะไรก็เกิดขึ้นได้บนเวที ผมขอแค่สู้เพื่อชัยชนะเท่านั้น”