“ชาโด้” ขอแจ้งเกิดเวทีใหญ่ ขนอาวุธครบมือสยบแกร่ง “โมฮาเหม็ด”

ชาโด้ สิงห์มาวิน” นักสู้เจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ขอสานต่อฟอร์มเก่งในฐานะนักกีฬา ONE น้องใหม่ โดยเตรียมอาวุธครบมือพร้อมชนแกร่ง “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” มวยอาวุธหนัก วัย 27 ปี จากแอลจีเรีย ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึก ONE Fight Night 33: อัลลิเซีย vs โยฮันนา ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08:00 น. ในวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.นี้

ผลงาน 5 ไฟต์หลังของ “ชาโด้”

สำหรับ “ชาโด้” เจ้าของตำแหน่งแชมป์เวทีมวยราชดำเนินในปี 2565 ข้ามฝากมาพิสูจน์ฝีมือบนเวทีมวยไทยระดับโลกอย่าง ONE ลุมพินี ในช่วงต้นปี 2567 แม้จะเปิดตัวด้วยความพ่ายแพ้แต่ “ชาโด้” ไม่เคยย่อท้อกลับไปฝึกซ้อมให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น จนสามารถเก็บชัยชนะได้ 5 ไฟต์รวดในเวลาต่อมา

ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา “ชาโด้” โชว์กดน็อก “ฮัสซัน วาห์ดานิราด” จากอิหร่าน ในยก 2 คว้าโบนัส 350,000 บาท ไปครอง พ่วงด้วยการคว้าสัญญานักกีฬา ONE เป็นคนที่ 24 และก้าวขึ้นมามีชื่อติดท็อปไฟว์ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในปัจจุบัน โดย “ชาโด้” ยอมรับว่าการได้เข้ามาชกใน ONE ทำให้ชีวิตของตนเปลี่ยนไปมาก และพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้าความท้าทายในระดับโลก

“เส้นทางใน วัน แชมเปียนชิพ ของผมมาไกลมาก จากวันแรกที่แพ้ให้กับ มามูกา (อูซูบายัน) ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงวันที่คว้าสัญญา ONE ได้ ตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ผมตั้งใจซ้อมและชกเต็มที่ทุกไฟต์ ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาใน ONE ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจเลย”

“ตอนที่พิธีกรบนเวทีบอกว่าผมได้สัญญา ONE มันดีใจจนพูดไม่ถูก ก่อนที่จะมาชกมวยมีคนบอกว่า ผมไม่น่าไปได้ไกล แต่วันนี้ผมได้ขึ้นมาอยู่ในระดับโลกแล้ว เหมือนเป็นการลบคำสบประมาทได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ ทำให้แม่ภูมิใจ ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป”

“ONE เปลี่ยนชีวิตของผมไปมาก ๆ มีแฟนมวยรู้จักมากขึ้น ไปไหนก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูป รวมถึงได้กลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักมวยรุ่นหลัง ทุก ๆ ก้าวของผมที่นี่ไม่เคยมีงานง่าย ยิ่งก้าวขึ้นมาชกระดับโลกยิ่งต้องตั้งใจให้มากกว่าเดิม เพราะมีแต่คนเก่ง ๆ รออยู่ครับ”

ชาโด้ ตั้งเป้าประเดิมชัยเวทีระดับโลก พร้อมทุบโบนัส

ด่านแรกระดับโลก “ชาโด้” ต้องเจอกับบททดสอบอันตรายอย่าง “โมฮาเหม็ด” ที่เคยปิดเกมแบบไม่ครบยกเหนือกำปั้นขวัญใจคนไทยอย่าง “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ที่เป็นถึงนักชกผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ณ ขณะนั้น มาแล้ว

ไฟต์ล่าสุด “โมฮาเหม็ด” เพิ่มน้ำหนักมาสู้ในรุ่นเฟเธอร์เวต และโชว์ฟอร์สวยเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “เอ็ดดี อาบาโซโล” จากสหรัฐอเมริกา ได้แบบสุดมัน ในศึก ONE 169 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะทำหน้าที่ต้อนรับ “ชาโด้” เจอของจริงระดับโลก

ไฟต์นี้ “ชาโด้” จึงต้องเตรียมตัวหนักมากเป็นพิเศษ โดยคุมเข้มทั้งในส่วนของการคุมอาหาร รวมถึงปรับสภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับการขึ้นชกช่วงเช้าเป็นครั้งแรก เพื่อสู้กับ “โมฮาเหม็ด” ที่เก๋าเกมเจนเวทีใหญ่มากกว่าแบบสุดฝีมือ หวังสร้างชื่อแจ้งเกิดให้ทุกคนได้จดจำ

“ผมเคยได้ยินชื่อเสียงและดูฟอร์มการชกของ โมฮาเหม็ด มาก่อน ดูไฟต์ที่เจอกับ พี่เสมาเพชร เขาเป็นนักมวยที่มีอาวุธรุนแรง คล่องแคล่ว และหมัดของเขาไม่เป็นรองใคร น่าจะชกด้วยยาก”

“ล่าสุด โมฮาเหม็ด เจอกับ เอ็ดดี มีแผ่วให้เห็นบ้าง แต่เขายังน่ากลัวเหมือนเดิม ตอนนี้เขาน่าจะเต็มเวตแล้ว มีความแข็งแกร่งมากขึ้น มีรูปร่างที่ใหญ่กว่า แต่ผมมีแผนรับมือแล้ว ต้องเข้าประชิดตัวเขาให้ได้  และจะใช้แม่ไม้มวยไทยเข้าไปสู้ครับ”

นอกจากต้องการเก็บชัยชนะครั้งสำคัญนี้เพื่อตัวเองแล้ว “ชาโด้” ยังหวังแสดงฝีมือแบบสุดความสามารถ เพื่อให้แม่สุดที่รักได้ภูมิใจ รวมถึงไม่อยากให้กองเชียร์ทุกคนที่คอยส่งกำลังใจให้ต้องผิดหวังด้วย

“ไฟต์เปิดตัวใน ONE (ใหญ่) ผมอยากจะชกออกมาให้ดีและสนุกที่สุด อยากให้แฟนมวยทั่วโลกได้รู้จักผม และได้เห็นว่าอาวุธมวยไทยน่ากลัวไม่แพ้ชาติใดในโลก”

“ถ้ามีจังหวะปิดเกม ผมก็จะทำให้ได้ในทันที ถ้าได้โบนัส 50,000 ดอลลาร์ น่าจะพลิกชีวิตของผมไปอีกก้าว ผมอาจจะบอกให้แม่เลิกทำงานหนักไปเลยก็ได้ เป้าหมายของผมคืออยากให้แม่สบายที่สุด เพราเขาเหนื่อยมาเยอะแล้ว”

“ส่วนตัวผมไม่ได้กดดันพร้อมทำทุกไฟต์ให้ดีที่สุด เราเหมือนเป็นตัวแทนของประเทศ แบกธงชาติไทยขึ้นไปสู้ ขึ้นไปชกระดับโลกเป็นครั้งแรก ผมจะทำให้เต็มที่เพื่อเอาชัยชนะกลับมาให้คนไทยทุกคนครับ”


ติดตาม “ชาโด้ vs โมฮาเหม็ด” ศึก ONE Fight Night 33 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 08.00 น.