“แรมโบ้เล็ก” เก็บแต้มรายการใหญ่ เป้าหมายต่อไปคือมุ่งหน้าสู่แรงกิง

 

“แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ” มวยซ้ายหนักคม จากชัยภูมิ เปิดใจหลังสามารถเก็บแต้มชัยแรกบนเวทีระดับโลกแจ้งเกิดได้สำเร็จ จากการเอาชนะ “เคร็ก โคกลีย์” นักชกชาวไอร์แลนด์ ดีกรีแชมป์จากเวทีค้นหาดาวรุ่ง Road To ONE สหราชอาณาจักร ไปได้อย่างสวยงาม ในศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย ONE Championship (@onechampionship)

 

สำหรับ “แรมโบ้เล็ก” คือนักกีฬาจาก ONE ลุมพินี ที่สามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้เป็นคนแรก เมื่อเดือน เม.ย.66 ก่อนที่ 5 เดือนต่อมาจะได้โอกาสประเดิมโชว์ฝีมือบนเวทีระดับโลกในศึก ONE Fight Night 14: แสตมป์ vs ซอ ฮี แต่แจ้งเกิดไม่สำเร็จ หลังถูก “เอซา เทน พาว” กำปั้นหนุ่มใหญ่ จากอเมริกา กดน็อกในยกสุดท้าย

กระทั่งในที่สุด “แรมโบ้เล็ก” ซึ่งเฝ้ารอโอกาสที่จะกลับมาพิสูจน์ตัวเองบนเวที ONE Fight Night มานานเกือบ 1 ปี ก็สามารถแจ้งเกิด และลบคำสบประมาทจากทุกคนได้สำเร็จในศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการระเบิดฟอร์มปราบ “เคร็ก โคกลีย์” ด้วยแต้มเอกฉันท์ ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าถึงภาพรวมของเกมการชกในวันนั้น และเปิดใจถึงความรู้สึกหลังเก็บชัยชนะสุดล้ำค่ามาได้

 

เคร็ก vs เแรมโบ้เล็ก (3 ส.ค.66)

 

“ไฟต์นี้ เคร็ก มาใหญ่มากครับ ทำให้ค่อนข้างที่จะชกยากนิดหนึ่ง เพราะแรงปะทะผมเสียเปรียบชัดเจน เหมือนรถเก๋งชนกับรถสิบล้อ ส่วนแผนการชก จริง ๆ แล้ว ผมตั้งใจจะเป็นฝ่ายเดินเปิดเกมก่อน แต่ปรากฏว่ายกแรก เคร็ก เขาชิงเดินก่อน ทำให้ผมจำเป็นต้องถอยตามเกม ซึ่งก็ถือว่าเขาทางผมเลยครับ เพราะผมถนัดชกแบบนั้นอยู่แล้ว”

“ยกแรกมีจังหวะที่โดนเข่า เคร็ก เต็ม ๆ ท้อง ก็มีแอบจุกอยู่ครับ แต่พยายามเก็บอาการเอาไว้ แต่ 2 ยกที่เหลือผมได้แน่นอน โดยเฉพาะยกสุดท้าย เพราะเขาออกอาการแผ่วชัดเจน ทำให้ผมสามารถชกได้ตามแผนตลอดทั้งยกเลย”

 

 

“ผมดีใจมากครับที่สามารถแจ้งเกิดได้ในศึก ONE Fight Night เพราะก่อนหน้านี้ หลายคนมองว่าผมไม่สมควรได้สัญญา ผมก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผมสามารถเก็บชัยชนะในรายการนี้ได้แล้ว”

อีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อว่าแฟนมวยทั่วประเทศหลายคนอาจยังไม่รู้ คืออาการบาดเจ็บบริเวณมือซ้าย ที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน จนทำให้ “แรมโบ้เล็ก” ต้องกัดฟันยืนสู้สุดหัวใจด้วยมือขวาเพียงข้างเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหัวใจความเป็นนักสู้ที่เจ้าตัวมีไม่น้อยไปกว่าใคร

 

 

“ผมบาดเจ็บกระดูกมือซ้ายร้าวตั้งแต่ยกแรกจากจังหวะฮุกซ้าย ผมรู้สึกมือชาไปเลย หลังจากนั้นผมไม่กล้าออกหมัดซ้ายเท่าไหร่ แต่ผมก็ต้องกัดฟันยืนสู้ต่อไป เน้นออกแต่หมัดขวาอย่างเดียว ส่วนหมัดซ้าย ทำได้แค่ยกบังป้องกันตัวเท่านั้น หลังจบเกม ผมไปโรงพยาบาลทันที พอตรวจละเอียดก็พบว่ากระดูกแค่ร้าวเฉย ๆ คุณหมอบอกพัก 2 อาทิตย์ก็หายแล้ว เพราะมันยังไม่ได้ถึงขั้นหักเหมือนไฟต์ที่ชกกับ โซเนอร์ เซน ครับ”

เป้าหมายหลังจากนี้ของ “แรมโบ้เล็ก” มีความฝันอยากที่จะก้าวสู่ความสำเร็จบนเวทีระดับโลกในอนาคต แต่ก็ตระหนักดีว่ายังมีจุดบกพร่องอีกหลายอย่างให้ต้องกลับไปแก้ไข เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น

 

 

“มีหลายอย่างเลยครับที่ผมต้องกลับไปปรับปรุงให้ดีขึ้น เรื่องแรงคือการทำน้ำหนักไม่ผ่าน ซึ่งผมต้องศึกษาเรื่องการทำค่าน้ำให้มากขึ้น แล้วก็เรื่องการป้องกันตัวด้วยครับ ซึ่งไฟต์นี้ผมไปย้อนดูคลิปแล้ว เห็นเลยว่ายังมีหลายจังหวะที่ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่”

“เป้าหมายของผมหลังจากนี้อยากจะทำฟอร์มเก็บชัยชนะให้ได้ต่อเนื่องอีกสัก 2-3 ไฟต์ แล้วหลังจากนั้นถ้ามีโอกาส ผมก็อยากจะวัดกับนักชกในแรงกิงรุ่นแบนตัมเวต ดูครับ”