“กุหลาบดำ” เชื่อ “เสือแบล็ค” คางเปราะ ต้องมีร่วงหากโดนซ้ายอุกกาบาต

“กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” ยอดมวยหมัดโหด วัย 25 ปี จากสุรินทร์ มั่นใจในความหนักของ “หมัดซ้ายอุกกาบาต” อันเลื่องชื่อของตนเอง โดยปักธงชัดขอเผด็จศึก “เสือแบล็ค ท.พราน49” คู่ชกเชื้อสายกะเหรี่ยง วัย 28 ปี จากเพชรบุรี ซึ่งทั้งคู่จะดวลกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในรายการใหญ่ประจำไตรมาส 3 ศึก ONE ลุมพินี 81: ซุปเปอร์บอน vs โจ ที่จะจัดขึ้น ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.นี้

ผลงาน 5 ไฟต์หลัง ของ “กุหลาบดำ” ใน ONE

ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 69 เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา “กุหลาบดำ” โชว์ความใจเด็ด อาสารับงานขึ้นชกกับ “นาบิล อานาน” รุ่นน้องร่างโย่ง เจ้าของส่วนสูง 192 ซม. ที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ชกที่ไม่มีใครอยากเผชิญหน้าด้วยมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งรูปเกมในวันนั้นดำเนินไปอย่างสนุกสุดมันตั้งแต่เสียงระฆังดัง ก่อนสุดท้าย “กุหลาบดำ” จะต้านทานความสูงยาวเข่าดีของกำปั้นรุ่นน้องไม่ไหว ต้องพ่ายน็อกไปแบบยอมจำนนในยกที่ 2

“ไฟต์ล่าสุดกับ นาบิล ยอมรับเลยครับว่าชกด้วยยากมาก ๆ เพราะช่วงชกเราเสียเปรียบชัดเจน ทำให้ผมจำเป็นต้องเข้าไปเสี่ยงเล่นวงใน จนโดนจับคอตีเข่าเต็ม ๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่ดีมากครับ และจะทำให้การชกกับนักมวยที่ตัวสูง ๆ แบบนี้ในครั้งต่อไปผมน่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นกว่านี้”

กุหลาบดำ vs นาบิล (5 ก.ค.67)

แม้จะพ่ายแพ้ด้วยการถูกน็อก แต่ “กุหลาบดำ” ก็สามารถเอาชนะใจแฟนมวยทั่วประเทศได้อย่างน่าประทับใจ หลังโชว์หัวใจนักสู้ ไม่ถอดใจยอมแพ้ง่าย ๆ แม้จะถูก “นาบิล” จับคอตีเข่าอย่างหนักหน่วงนานนับนาที ซึ่ง “กุหลาบดำ” ได้เปิดเผยว่าตนได้รับกำลังใจอย่างท่วมท้นจากแฟนมวยทั่วประเทศ หลังจากจบการแข่งขันในวันนั้น

“ที่ผมไม่ยอมทิ้งตัวง่าย ๆ เป็นเพราะผมตัดสินใจเลือกที่จะเป็นนักมวยแล้ว ถ้ามาทางนี้ ผมต้องเอาให้สุด ถ้าจะทำให้ผมแพ้ ก็ต้องทำให้ผมหลับ หรือสู้ต่อไม่ได้จริง ๆ เท่านั้น ซึ่งพอแฟนมวยเขาเห็นผมสู้ตายขนาดนี้ ก็ทำให้ผมได้รับกำลังใจจากทุกช่องทางเยอะมาก ทางครอบครัว และคนรอบข้างก็บอกให้ผมสู้ต่อไป ตั้งใจซ้อมเข้าไว้อย่าท้อ ซึ่งกำลังใจจากทุกคน ทำให้ผมมีแรงฮึดที่จะกลับมาซ้อมต่ออีกครั้งทันทีครับ”

กลับมาครั้งนี้ “กุหลาบดำ” ที่เติมกำลังใจมาเต็มถัง จะต้องดวลเดือดกับ “เสือแบล็ค ท.พราน49” จอมบู๊พันธุ์โหด เชื้อสายกะเหรี่ยง ที่ต้องการกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง หลังไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 68: พระจันทร์ฉาย vs โจนาธาน เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พลาดท่าเสียสถิติไร้พ่าย โดยถูก “เคียมรัน นาบาติ” คู่ปรับเก่าชาวรัสเซีย อัดน็อกยกแรก ไปอย่างเจ็บแสบ

การโคจรมาปะทะกับ “เสือแบล็ค” ซึ่งเป็นนักชกสไตล์บู๊ล้างผลาญเช่นเดียวกัน ทำให้ “กุหลาบดำ” มั่นใจว่าเกมการชกในครั้งนี้จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างแน่นอน ซึ่งตนก็ได้เตรียม “หมัดซ้ายอุกกาบาต” อาวุธเก่งของตนเองมาเป็นอย่างดี หวังเล่นงาน “เสือแบล็ค” ให้ชอกช้ำซ้ำรอยความพ่ายแพ้ในไฟต์ล่าสุดให้ได้

เคียมรัน vs เสือแบล็ค (28 มิ.ย.67)

“ผมรู้สึกดีใจนะครับเมื่อรู้ว่าจะได้เจอ เสือแบล็ค เพราะรูปร่างเราใกล้เคียงกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ผมมองว่าเขาเป็นคู่ชกที่ถือว่าอันตรายคนหนึ่ง เพราะเขาพัฒนาฝีมือขึ้นมาเร็วมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเลือกมาถูกทางด้วย การชกมวยไทยนวมเล็กเป็นอะไรที่ดูเข้ากับสไตล์การชกของเขามากครับ”

“เสือแบล็ค เป็นมวยเดินต่อยขาเตะหมัด และมีลูกศอกที่อันตรายมาก ซึ่งผมก็ได้เตรียมลูกศอกมาแก้ทางเขาเช่นกันครับ ส่วนจุดอ่อนของ เสือแบล็ค คือเป็นมวยคางเปราะ เหมือนว่าถ้าโดนอาวุธจัง ๆ จะทนไม่ได้ อย่างในไฟต์ที่แล้วที่เขาโดนเต็ม ๆ ทีเดียวก็ไปเลย ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้าไฟต์นี้ถ้ามีจังหวะที่เขาโดนหมัดผมจัง ๆ ยังไงก็ต้องมีร่วงแน่นอนครับ”

“ผมเป็นมวยที่ถ้าเจอคู่ชกมาแนวฝีมือ ผมจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะชกด้วยยาก แต่ถ้ามาเจอมวยบู๊กล้าแลกแบบ เสือแบล็ค ผมบอกเลยว่าชอบมาก และผมมั่นใจว่าโอกาสไม่ครบยกมีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไฟต์นี้จะต้องออกมาสนุกและดุเดือดแน่นอนครับ”

แน่นอนว่าการแพ้มาแล้ว 2 ไฟต์ติดต่อกัน ทำให้ “กุหลาบดำ” ที่ในอดีตเคยขึ้นไปโชว์ฝีมือบนเวทีรายการใหญ่ ONE มาแล้วถึง 3 ครั้ง รู้ตัวว่าไฟต์นี้ตนจำเป็นที่จะต้องคว้าชัยแบบสวย ๆ ให้ได้สถานเดียว ไม่อย่างนั้นโอกาสที่จะได้กลับไปผงาดในจุดที่เคยยืนอยู่อีกครั้งคงจะเป็นเรื่องยากเต็มทน

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย ONE Championship (@onechampionship)

“ไฟต์นี้สำคัญสำหรับผมมากครับ เพราะผมแพ้มา 2 ไฟต์ติด ครั้งนี้ผมจะแพ้ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเกิดแพ้อีกโอกาสที่จะกลับไปลุยใน ONE ก็คงจะยากมาก และผมมองว่าแค่ชนะคะแนนก็ยังไม่พอด้วย ผมต้องการชนะน็อกเพื่อกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผมที่จะได้กลับไปสู้ใน ONE ในอนาคตด้วยครับ”