“ก้องไกล” พร้อมงัดทุกกระบวนท่า ต้องฝ่าด่าน “เดอนิส” เพื่อได้ไปต่อ

“ก้องไกล ส.สมหมาย” ยอดมวยบู๊มัน วัย 25 ปี จากพิษณุโลก ช่วงหลังฟอร์มหลุดชนะใครไม่เป็น 3 ไฟต์รวด เตรียมวัดฝีมือกับ “Bad Boy” เดอนิส เดอมีร์คาปู กำปั้นอันตราย วัย 24 ปี ตัวแทนตุรกี-โมร็อกโก ที่ต้องการกลับมาเก็บชัยชนะให้ได้เช่นกัน ภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 138 ป. ในคู่เอกภาคอินเตอร์ ศึก ONE ลุมพินี 80 วันศุกร์ที่ 20 ก.ย.นี้ ที่สนามมวยเสทีลุมพินี (รามอินทรา) คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.

ผลงาน 5 ไฟต์หลังสุดของ “ก้องไกล”

สำหรับ “ก้องไกล” เจ้าของรางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่นชายปี 2563 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ล่าสุดโชว์ผลงานในศึก ONE 67 เมื่อ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังเร่งฟอร์มเก่งไม่ขึ้น ตกเป็นฝ่ายพ่ายทีเคโอยก 3 ให้กับ “โอทิส แว็กฮอร์น” กำปั้นฟอร์มสด วัย 22 ปี จากสหราชอาณาจักร ที่มาเปิดตัวเป็นครั้งแรก ส่งผลให้เขายังเก็บแต้มชัยไม่ได้ใน 3 ไฟต์หลังสุด

กลับมารอบนี้ “ก้องไกล” จึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับสู่เส้นทางผู้ชนะให้เร็วที่สุด หากยังหวังไปต่อบนเวที ONE ลุมพินี แม้เจ้าตัวจะมีความตั้งใจเกินร้อย แต่ไม่คาดหวังกับตนเองมากเกินไปจนเกิดความกดดัน โดยขอขึ้นไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ก้องไกล” ปล่อยของได้ไม่เต็มที่ในไฟต์ล่าสุด เนื่องจากเขาเพิ่งย้ายมาร่วมงานกับค่ายมวย ส.สมหมายได้ไม่นาน ทำให้มีปัญหาในเรื่องของการปรับตัวอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เขาพร้อมกลบจุดบกพร่องของตัวเองเรียกคืนฟอร์มเก่งให้ทุกคนได้เห็นกัน

“ไฟต์นี้ผมยังมีอาวุธหมัด เท้า เข่า ศอก ครบเครื่องเหมือนเดิม ส่วนปัญหาเรื่องการ์ดตกที่หลายคนเตือนเข้ามา ผมก็พยายามฝึกแก้ตรงจุดนี้อยู่ทุกวัน แทบจะเอามือไปมัดกับคออยู่แล้ว (หัวเราะ)”

“เวลาแลกอาวุธกัน ไม่มีใครนึกได้ทัน มันเป็นจังหวะธรรมชาติ แต่เมื่ออยู่บนเวทีไม่มีใครอยากมือตกอยู่แล้วครับ”

ก้องไกล vs เดอนิส

ชั่วโมงนี้ “ก้องไกล” ต้องเผชิญหน้ากับ “เดอนิส” ที่ไฟต์ล่าสุดเพิ่งพ่ายน็อก “เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” ยก 2 ในศึก ONE ลุมพินี 60 เมื่อ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้ได้ โดยเขาได้ทำการศึกษาคู่ชกรายนี้มาอย่างละเอียด เพื่อหาลู่ทางจัดการอีกฝ่ายให้ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

“เดอนิส เป็นมวยหมัดที่ชกได้รุนแรง อีกอย่างคือเขาเป็นมวยซ้าย เป็นมวยทางเดียวกัน ส่วนมากผมไม่ค่อยได้เจอกับนักมวยถนัดซ้ายเหมือนกัน ทำให้รู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ตั้งแต่ผมทราบว่าต้องเจอเขา ผมก็ศึกษาการชกของเขามาตลอด 2 เดือน”

“จุดอ่อนของ เดอนิส คือเวลาออกหมัด แขนขวาของเขาจะหล่น มันคือจุดบอดที่ผมจะสามารถโต้กลับคืนได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับจังหวะในวันแข่งขันจริงอีกทีว่าจะออกมาเป็นแบบที่คิดเอาไว้หรือเปล่า”

“ผมวางแผนมาสู้กับเขาด้วยการรอดักจังหวะสอง เพราะเขาต้องมาเดินชกหมัดใส่ผมแน่ ๆ เขาคงศึกษา 3 ไฟต์ที่ผมแพ้หลังสุด เพื่อดูจุดบอดของผม ผมจึงต้องวางแผนแก้เกมรับมือในจุดนี้ให้ได้”

“รูปเกมในไฟต์นี้ในใจอยากเน้นเอาชนะให้ได้ก่อน แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจบเกมเร็วเหมือนกัน เพราะว่าจะได้ไม่ต้องสู้กันยืดเยื้อ สู้กันนานทีไรผมเป็นฝ่ายหลับก่อนทุกที (หัวเราะ)”

งานนี้ “ก้องไกล” รู้ตัวดีว่าไฟต์นี้มีความสำคัญต่อตัวเองมากแค่ไหน เพราะหากพลาดท่าแพ้ 4 ไฟต์ติด คงยากที่จะได้โอกาสกลับมาโชว์ฝีมือในรายการนี้อีก เจ้าตัวจึงยกให้ไฟต์นี้เป็นเหมือนบททดสอบสำคัญในอาชีพ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะทำให้เห็นภาพทุกอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“ไฟต์นี้สำคัญต่อตัวผมมาก เหมือนการสอบเข้าโรงเรียน ถ้าสอบตกคงได้หายไปอีกนาน ต้องไปติววิชาใหม่อีกเยอะกว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง ไฟต์นี้คือถ้าสอบผ่านคือผ่านได้ไปต่อ ถ้าพลาดไปชื่อของผมต้องหลุดโผจากกระดานแน่นอน เป็นเกมชี้ชะตาอนาคต แต่ผมก็พยายามไม่กดดันตัวเองมากเกินไป เดี๋ยวผลงานจะออกมาไม่ดี ผมเชื่อว่าคนเราออกรบ 10 ไฟต์ คงไม่แพ้ทั้ง 10 ไฟต์แน่นอน มันต้องมีวันที่เป็นของผมบ้างครับ”