เปิดตัวคู่มวยมันเผชิญหน้ากันในคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 112 ซึ่งเตรียมถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรก 19.30 น. โดยประกบให้ “ขุนพลน้อย ส.สมหมาย” นักชกจอมอึดวัย 32 ปี จากนครศรีธรรมราช เจอกับ “โม เทต ออง” กำปั้นอันตราย วัย 26 ปี จากเมียนมา ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)
สำหรับ “ขุนพลน้อย” นักสู้ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายในสายเลือดของ “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ยอดเยี่ยม โดยเก็บชัยชนะได้รวดใน 3 ไฟต์หลังสุด ทำให้ปัจจุบันเจ้าตัวมีสถิติ 5-2 ในการขึ้นชกรายการ ONE ลุมพินี ซึ่งเป็นการปิดเกมไม่ครบยกคู่ชกได้ถึง 3 ไฟต์ พร้อมรับโบนัส 350,000 บาท ติดมือไปได้ 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,050,000 บาท ไม่รวมค่าตัว
ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 104 เมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา “ขุนพลน้อย” ออกมาบู๊ยืนแลกอาวุธกับ “ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์” อย่างสนุก ก่อนเป็นฝ่ายเฉือนชนะด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ (2 ต่อ 1 เสียง) หยุดสถิติชนะต่อเนื่องของอีกฝ่ายเอาไว้ที่ 5 ไฟต์ กลับมารอบนี้ “ขุนพลน้อย” ตั้งใจกำราบจอมแกร่งจากเมียนมา “โม เทต ออง” เป็นรายต่อไป เพื่อยืดสถิติเฮชัยติดกันเป็นไฟต์ที่ 4 ในรายการนี้
ทางฝั่ง “โม เทต ออง” กำปั้นขวัญใจพี่น้องชาวเมียนมา ปรากฏตัวบนสังเวียน ONE ลุมพินี เมื่อไหร่ ก็เรียกแฟนมวยเข้ามาเชียร์ชนิดสนามแทบแตกทุกครั้ง โดยสองไฟต์แรกเขาเปิดตัวสวยด้วยการชนะนักชกจากญี่ปุ่นได้สองรายติดกัน เริ่มจากชนะทีเคโอยก 3 “โตโมยะ มารุยามา” ต่อด้วยชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ “คาซูกิ ยามากิชิ” พร้อมคว้าโบนัส 350,000 บาท กลับบ้านไปได้หนึ่งครั้ง
ล่าสุดเส้นทางชัยชนะในรายการนี้ของ “โม เทต ออง” ต้องหยุดชะงักลง เมื่อเขาเสียท่าแพ้เป็นครั้งแรกให้กับ “สมิงดำ เอ็นเอฟ.ลูกสวน” ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE ลุมพินี 95 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ตอนนี้ “โม เทต ออง” จึงตั้งใจกู้ฟอร์มเก่งกลับมา พร้อมกับถอนแค้นให้เพื่อนร่วมชาติ “ซ่อนรัก” ด้วยการเอาชนะ “ขุนพลน้อย” ให้ได้
ศึกครั้งนี้รับประกันดุเดือดเต็มพิกัด สุดท้าย “ขุนพลน้อย” จะปิดบัญชีคู่ชกจากเมียนมาได้ต่อเนื่อง หรือ “โม เทต ออง” จะแก้แค้นเพื่อนร่วมชาติได้สำเร็จ แฟนมวยต้องติดตามชมกันให้ดี!
ศึก ONE ลุมพินี 112 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.
