ข้าม 3 รุ่นไม่ใช่ปัญหา! “ไมกี” ตัวเล็กก็มีโอกาสชนะตัวใหญ่ได้ใน BJJ

 

“Dart Rigatoni” ไมกี มูซูเมกี แชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ ขึ้นแท่นแชมป์ปล้ำจับล็อก 2 รุ่นคนแรกของ ONE ด้วยการขยับน้ำหนักถึง 3 รุ่นขึ้นไปท้าชิงบัลลังก์รุ่นไลต์เวต (155 – 170 ป.) จาก “เคด รูโทโล” นักรัดรุ่นน้องร่วมชาติ วัย 21 ปี ในคู่รองของศึก ONE 168: Denver ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 บนดินแดนอเมริกา ณ สังเวียน บอล อารีนา เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ในวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.67

 

ผลงาน 5 ไฟต์หลังของ “ไมกี” ใน ONE

 

สำหรับ “ไมกี” มีดีกรีเป็นถึงเจ้าของบัลลังก์ปล้ำจับล็อก รุ่นฟลายเวต คนแรกในประวัติศาสตร์ โดยปัจจุบันถือครองสถิติ 7 ไฟต์ไร้พ่ายใน ONE โดยเป็นการป้องกันบัลลังก์ถึง 3 ครั้ง และด้วยฝีมือที่เก่งกาจเกินเบอร์ จึงทำให้ “ไมกี” ที่เริ่มหาผู้ท้าชิงรายใหม่มาต่อกรได้ยาก จึงตัดสินใจเปิดรับความท้าทายครั้งใหญ่ ด้วยการเบ่งน้ำหนักขึ้นมาถึง 3 รุ่น เพื่อท้าชิงแชมป์รุ่นไลต์เวต จาก “เคด” ผู้ไม่เคยแพ้ใคร ลุ้นเป็นเจ้าบัลลังก์ปล้ำจับล็อก 2 รุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ ONE

แม้การปีนน้ำหนักถึง 3 รุ่น จะทำให้ “ไมกี” ต้องเสียเปรียบด้านสรีระอย่างหนัก แต่เจ้าตัวกลับไม่มีความหวั่นใจแม้แต่น้อย กับความท้าทายครั้งใหญ่นี้ เนื่องจากมองว่าในกีฬาบราซิลเลียนยูยิตสู (BJJ) มีโอกาสเสมอที่นักกีฬาสามารถข้ามรุ่นไปเอาชนะคู่แข่งที่มีน้ำหนักมากกว่าได้

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย ONE Championship (@onechampionship)

 

“ผมเป็นเบอร์ 1 ของโลกในรุ่นน้ำหนัก 135 ป. และเคดก็เป็นเบอร์ 1 ของโลกในรุ่นน้ำหนัก 170 ป. ถ้าเป็นกีฬาการต่อสู้ในท่ายืนจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะได้เจอกัน แต่ในกีฬา BJJ นักกีฬาคนหนึ่งสามารถข้ามรุ่นไปสู้กับคนที่น้ำหนักตัวมากกว่าถึง 3 รุ่นได้ คนตัวเล็กมีโอกาสเสมอที่จะเอาชนะคนตัวใหญ่ได้ นี่คือความสวยงามของกีฬาชนิดนี้”

“สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นคือการได้ฝึกซ้อม เรียนรู้ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง การสู้กับคนในรุ่น 135 ป.เป็นเวลา 10 ปี ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอีกต่อไปสำหรับผม ผมต้องการลงแข่งในรุ่นที่สูงกว่า ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเต็มไปหมดว่าผมจะไหวหรือเปล่า ผมชอบความไม่แน่นอน ผมชอบการผลักดันตัวเอง และถ้าผมสามารถเอาชนะได้ก็สุดยอดเลย ผมจะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้นมา แต่ถ้าผมแพ้ก็ยังคงสุดยอดเช่นกัน และผมก็แค่ต้องลุกขึ้นมาใหม่ และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น ผมจะเรียนรู้จากมัน และก้าวสู่ความท้าทายต่อไป”

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย ONE Championship (@onechampionship)

 

โดยไฟต์นี้ “ไมกี” มั่นใจว่าเกมการต่อสู้จะต้องออกมาสนุกตื่นเต้นเร้าใจ สมการรอคอยของแฟนกีฬาการต่อสู้ทั่วโลกอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้งตนและ “เคด” ต่างนิยมชมชอบในเกมบุกเหมือนกัน ซึ่งจะทำให้แฟน ๆ ได้เห็นการชิงไหวชิงพริบ พลิกเหลี่ยมแก้เกมกันไปมาทุกวินาที

“ผมคือ รถถัง (จิตรเมืองนนท์) แห่งวงการ BJJ ผมไม่เคยป้องกันตัว ผมบุกไปข้างหน้าทุกวินาที นั่นคือสไตล์ของผม ถึงผมจะตั้งท่านอนหงาย แต่ผมก็มองหาโอกาสซับมิชชันทุกวินาที ส่วนเคด เองก็เช่นกัน เขามักจะมองหาโอกาสซับมิชชันอีกฝ่ายจากข้างบนเสมอ ไฟต์นี้ทุกคนจะได้เห็นนักกีฬา 2 คนที่มองหาโอกาสซับมิชชันและบุกใส่กันตลอดทั้งเกม และจะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุด”

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย ONE Championship (@onechampionship)

 

แน่นอนว่า “ไมกี” รู้ดีถึงความอันตรายของ “เคด” ในเรื่องการหาจังหวะซับมิชชันได้ทันทีที่มองเห็นโอกาส อย่างไรก็ตาม “ไมกี” ที่เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ยังคงพร้อมที่จะรับความเสี่ยง ด้วยการเปิดเกมรุกเข้าใส่เจ้าบัลลังก์ผู้ไร้พ่าย แบบจัดเต็มเหมือนทุกไฟต์ที่ผ่านมา เพื่อให้สมกับเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์วงการกีฬา BJJ

“ผมพูดถึงพี่น้องตระกูล รูโทโล ในแง่ดีมาตลอด เพราะพวกเขาโจมตีได้หลากหลายท่า แต่ผมจะเดินหน้าบุกโจมตีไม่หยุด ผมแค่ต้องเตรียมพร้อมเกมบุกไม่ให้ถูกเขาโต้กลับ เพราะเขาโต้กลับได้เก่งมาก ผมจะนึกถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดว่า เคด จะแก้ทางผมกลับยังไง ไฟต์นี้จะไม่มีอะไรที่คาดไม่ถึง ผมจะปล้ำกับเขาอย่างชาญฉลาด และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องมีมากถึง 1 ล้านท่า”

 

 

“เกมของผมคือการรุก ผมตั้งรับไม่เป็น ผมจึงวางแผนที่จะรุกโจมตี เคด อย่างหนักหน่วงทุกวินาที มันจะเป็นไฟต์ที่บ้ามากแน่ ๆ แต่อย่างที่ผมบอกไป ผมต้องเลือกใช้ท่าอย่างชาญฉลาดมาก ๆ และนั่นก็ขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อมของผมในตอนนี้ เพื่อดูว่าผมอาจจะโดนแก้ทางในท่าไหนบ้าง”

“ส่วนตัวผมคิดว่าไฟต์นี้อาจจะมีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ BJJ และอาจจะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ BJJ เลยก็ว่าได้ บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” เองก็พูดแบบนั้นเช่นกัน”