“ซุปเปอร์เล็ก” เตรียมเซอร์ไพรส์ กระชากบัลลังก์มวยไทย “แฮ็กเกอร์ตี”

 

“เครื่องจักรนักเตะ” ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) พร้อมลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ ขึ้นแท่นเจ้าบัลลังก์ 2 รุ่น 2 กติกา ด้วยการท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จาก “The General” โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี เจ้าของเข็มขัดคนปัจจุบันจากสหราชอาณาจักร ในฐานะคู่เอกของ ศึก ONE 168: Denver ที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะถ่ายทอดสดในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วง 07.00 น. ของเช้าวันเสาร์ที่ 7 ก.ย. นี้ ตามเวลาไทย

 

ผลงาน 5 ไฟต์หลังของ “ซุปเปอร์เล็ก” ใน ONE

 

สำหรับ “ซุปเปอร์เล็ก” ปักหลักสู้ในรุ่นฟลายเวต มาโดยตลอด นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2562 โดยปัจจุบันขึ้นชกในรุ่นนี้ไปแล้วมากถึง 15 ไฟต์ พลาดท่าแพ้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น โดยหลังจากปราบคู่ต่อสู้ในรุ่นนี้จนราบเป็นหน้ากลอง จอมเตะขวัญใจชาวไทย จึงตัดสินใจเปิดรับความท้าทายครั้งใหญ่ ด้วยการขยับขึ้นสู่รุ่นแบนตัมเวต เพื่อท้าชิงบัลลังก์มวยไทยจาก “แฮ็กเกอร์ตี”

แน่นอนว่าการพบกันระหว่าง “ซุปเปอร์เล็ก” และ “แฮ็กเกอร์ตี” ถือเป็นคู่มวยในฝันของแฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเสียงจากแฟนมวยบางส่วนที่ยังคงข้องใจว่าทำไม “ซุปเปอร์เล็ก” จึงได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์อย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่เพิ่งขยับรุ่นขึ้นมาสู้ในรุ่นแบนตัมเวต เป็นครั้งแรก ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

 

 

“ผมคิดว่าเหมาะสม เพราะผมเป็นแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตที่เป็นรุ่นเล็กกว่า และ แฮ็กเกอร์ตี เป็นแชมป์โลกรุ่น 65 กก. คือรุ่นแบนตัมเวต นี่จะเป็นการชกครั้งแรกของผมในรุ่นแบนตัมเวต บางคนอาจไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะมองว่าทำไมผมถึงได้ชิงทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยชกในรุ่นนี้ แต่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่อยากดูว่าผมขึ้นไปในรุ่นแบนตัมเวตแล้วจะเป็นยังไง”

“การขยับเวตขึ้นไปประมาณ 10 ปอนด์ มีผลทำให้อาวุธหนักขึ้น เรื่องความเร็ว ผมคิดว่ายังเหมือนเดิม ส่วนในรูปแบบการซ้อมของผมแตกต่างไปจากเดิม มีการเล่นเวตมากขึ้น และหลังจากที่ไปเสริมเวตมา ก็เห็นผลว่าร่างกายดีขึ้นครับ”

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย ONE Championship (@onechampionship)

 

ย้อนกลับไปในปี 2561 “ซุปเปอร์เล็ก” และ “แฮ็กเกอร์ตี” เคยประชันฝีมือกันมาแล้วในการแข่งขันมวยไทยที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งผลการแข่งขันในวันนั้นลงเอยที่ “ซุปเปอร์เล็ก” บุกไปชนะทีเคโอ “แฮ็กเกอร์ตี” ถึงถิ่นแบบสุดเดือด โดยหลังจากผ่านไป 6 ปี ในที่สุดทั้งคู่ก็จะได้มาปะทะกันอีกครั้ง ซึ่ง “ซุปเปอร์เล็ก” ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้โอกาสให้พบกับ “แฮ็กเกอร์ตี” สมใจอยากในศึกภาค 2 พร้อมมองว่าคู่ปรับเก่ารายนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นจากในอดีตอย่างเห็นได้ชัดในทุก ๆ ด้าน

“ผมอยากชกกับ แฮ็กเกอร์ตี แค่นั้นเอง ผมไม่ได้มีอะไรนอกจากอยากชกกับเขา เราเคยชกกันมาแล้ว ตอนนั้นการตัดสินมันไวเกินไป ผมเลยอยากชกกับเขาอีกครั้งในวันที่เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และเป็นแชมป์โลก 2 เส้น มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผมครับ”

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย ONE Championship (@onechampionship)

 

“จากครั้งนั้นจนถึงตอนนี้หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแรง ด้านความไว และใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงที่มั่นใจ ตอนเจอกันครั้งก่อนเหมือนเขายังเด็ก เพิ่งเริ่มชกมวยได้ไม่กี่ไฟต์ แต่ตอนนี้ประสบการณ์เขาดีขึ้น เขาแข็งแกร่งขึ้น เขามีความมั่นใจสูง”

“ตอนที่เขาขยับรุ่นขึ้นไปรุ่นแบนตัมเวต ผมยังไม่คิดนะว่าเขาจะได้เป็นแชมป์โลก เพราะหนึ่งเลยคือยังมี พี่โอ๋ (น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย) อยู่ ซึ่งตัวผมเองมองว่า พี่โอ๋ แกร่งที่สุดในรุ่นแบนตัมเวต แต่ว่าเขาเอาชนะ พี่โอ๋ ได้ เขาก็เก่งขึ้น พัฒนาเร็วขึ้น แต่เกมวันนั้นมันจบเร็วไป ยังไม่เห็นอะไรที่มากกว่านั้น”

 

 

การที่ “แฮ็กเกอร์ตี” กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มพีกถึงขีดสุดจากการปิดเกมคู่ชกระดับพระกาฬมา 3 ไฟต์รวด ทำให้ “ซุปเปอร์เล็ก” รู้ดีว่าไฟต์นี้ตนจะต้องเจองานยากบนสังเวียนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม “ซุปเปอร์เล็ก” ได้เตรียมทีเด็ดสุดพิเศษซ่อนเอาไว้ โดยหวังสร้างเซอร์ไพรส์ กระชากเข็มขัดแชมป์จาก “แฮ็กเกอร์ตี” มาครองให้ได้

“เขาชนะน็อกมา 3 ไฟต์รวด ซึ่งทั้ง 3 ไฟต์เป็นการป้องกันแชมป์และชิงแชมป์ที่เป็นการชก 5 ยก แต่เขาชกแค่ 2-3 ยกตลอด แน่นอนว่าเขาก็คงอยากปิดเกมไวผม ตัวผมเองก็ซ้อมไปเพราะอยากปิดเกมไวเหมือนกัน เพราะในการชก ทุกคนอยากชนะน็อกกันทั้งนั้นครับ”

 

 

 “เขาอาจคิดว่าผมมีแค่ลูกศอกและลูกเตะที่อันตราย แต่เขาอาจศึกษาผิดพลาดก็ได้ ซึ่งไฟต์นี้อยากให้ทุกคนเห็นผมในรูปแบบที่ไม่คาดคิด ไม่ใช่ ‘เครื่องจักรนักเตะ’ แบบเดิม แต่เป็นเวอร์ชันใหม่ของผมครับ”