กลายเป็นไฟต์ปัญหาในวงการกำปั้นทันทีสำหรับศึกมวยโลกคู่ระหว่าง ‘เอ็มมานูเอล นาวาร์เรเต้’ แชมป์ชาวเม็กซิกัน กับ ‘ชาร์ลี ซัวเรซ’ ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ เมื่อการชกต้องยุติลงในช่วงต้นยกที่ 8 เท่านั้น
โดยเกมการชกเป็นไปอย่างดุเดือด กำปั้นทั้งคู่เปิดฉากแลกหมัดใส่กันชนิดไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่หลังเริ่มยกที่ 8 ‘ชาร์ลี ซัวเรซ’ ได้โอกาสทิ้งหมัดซ้ายเข้าเต็มหน้าของแชมป์ ก่อนที่จะมีอุบัติเหตุหัวชนกันเล็กน้อย จากนั้น ‘เอ็มมานูเอล นาวาร์เรเต้’ ก็มีแผลแตกเลือดสาดบริเวณหางคิ้วซ้าย
ซึ่งสุดท้ายกรรมการมองว่า แผลแตกดังกล่าวเกิดจากอุบัติเหตุหัวชนกันทำให้ตามกฎของ องค์กรมวยโลก (WBO) ต้องมีการรวมคะแนนตัดสินจากการชกในช่วงยกที่ผ่านมา
หลังรวมคะแนนปรากฏว่า ‘เอ็มมานูเอล นาวาร์เรเต้’ เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้ 3-0 เสียง (78-75, 77-76 และ 77-76) ป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้อีกสมัย ท่ามกลางความกังขาว่าบาดแผลนั้นเกิดจากหมัด หรือหัวโขกกันแน่
อย่างไรก็ตามภายหลังการชกได้มีการดูภาพช้าในจังหวะดังกล่าว ก่อนที่ ‘คาร์ล โมเร็ตติ’ รองประธานของ ท็อปแรงก์ ได้ออกมาชี้ว่าแผลแตกดังกล่าวเกิดจากหมัดอย่างแน่นอน
“ผมได้ดูภาพช้าแล้วมันเป็นแผลที่เกิดจากพลังหมัด แต่ทางคณะกรรมการกีฬาแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย บอกว่าพวกเขาไม่สามารถดูภาพช้าเพื่อใช้ในการตัดสินได้” รองประธานกล่าว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่ามีผลต่อการตัดสินอย่างสิ้นเชิงเพราะว่าหากแผลแตกถูกชี้ว่าเกิดจากหมัดจะเป็นทางด้าน ‘ชาร์ลี ซัวเรซ’ ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ ที่จะเป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอ พร้อมทั้งคว้าแชมป์องค์กรมวยโลก (WBO) รุ่นจูเนียร์ ไลต์เวต ไปครองแทน
